bih.button.backtotop.text

อาการผื่นคันในเด็กที่พ่อแม่ควรมั่นสังเกต

สาเหตุของอาการคันที่พ่อแม่ควรรู้

สาเหตุของอาการคันในทารกที่พบบ่อยคือ อาการผื่นคัน และสาเหตุของผื่นคันที่พบบ่อยที่สุดเช่นกันก็คือ ผิวแห้ง
โรคที่เกิดในภาวะผิวแห้ง มีหลายโรค แต่โรคที่พบบ่อยคือ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างผิวหนัง เมื่อผิวหนังเก็บกักน้ำได้ไม่ดี จะทำให้ผิวสูญเสียน้ำ
เมื่อสูญเสียน้ำเยอะ จะทำให้ผิวแห้ง มีรูรั่วเล็กๆ รูรั่วบนผิวนี้สามารถทำให้สิ่งแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ควัน หรือสารก่อภูมิแพ้ต่างๆเข้าสู่ร่างกายได้ ทำให้การอักเสบเกิดได้ง่ายกว่าผิวที่ชุ่มชื้น
 
อาการของผิวแห้ง จะแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
  1. ระยะเฉียบพลัน
  2. ระยะกึ่งเฉียบพลัน
  3. ระยะเรื้อรัง
ซึ่งในเด็กแต่ละช่วงอายุ จะมีอาการแตกต่างกันไป
เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ มักพบบริเวณ แก้ม หน้าผาก คอ ข้อมือ ข้อเท้า แขนและขาด้านนอก
เด็กโต มักพบบริเวณ ข้อพับ แขน ขา เท้า ข้อเท้า
ผู้ป่วยที่มีอาการเริ่มของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในตอนโต มักจะรักษายากกว่าผู้ป่วยที่มีอาการตอนเด็ก
 

วิธีสังเกตอาการ ที่บ่งบอกว่ากำลังเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง

  1. บริเวณผิวหนังมีผื่นแดง และมักมีอาการคันร่วมด้วย
  2. ผื่นขึ้นตามบริเวณต่างๆของร่างกายตามช่วงอายุที่กล่าวถึงด้านบน เช่น ผื่นขึ้นบริเวณแก้มหรือหน้าผากในเด็กต่ำกว่า 2 ขวบ หรือ พบผื่นบริเวณข้อพับในเด็กโตและผู้ใหญ่
  3. ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง เป็นๆหายๆ
  4. มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเมื่อ คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ เช่น ภูมิแพ้จมูกอักเสบ (Allergic Rhinitis) ภูมิแพ้ผิวหนัง รวมถึงหอบหืดด้วย
หากสังเกตอาการแล้วไม่เป็นตาม 4 ข้อข้างต้น แต่มีอาการคัน มีผื่น ร่วมกับ ปากซีด ใต้ตาคล้ำ ขนคุด ผิวไม่เรียบ ผิวแห้งเป็นขุย ผิวแตกมากในฤดูหนาว อาจพบในบางบริเวณหรือทั่วร่างกาย อาการเหล่านี้คืออาการร่วมที่สามารถบ่งชี้ว่าเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังได้เช่นกัน
เมื่อสังเกตอาการ และพบข้อบ่งชี้ดังที่กล่าวมา ควรพบแพทย์เพื่อรักษาโดยเร็ว


ขั้นตอนในการวินิจฉัยโรค

  1. แพทย์จะทำการพิจารณาลักษณะของผื่นที่เกิดขึ้นในบริเวณต่างๆ
  2. ซักประวัติโดยละเอียด
  3. แยกโรคและหาวิธีรักษาอย่างถูกต้องที่สุด
เนื่องจากโรคผิวหนังในเด็ก สามารถแยกประเภทโรคได้หลากหลาย อาทิ ภูมิแพ้ผิวหนัง โรคผิวหนังอักเสบจากต่อมไขมันหรือเซ็บเดิร์ม โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น นอกจากนี้ โรคผื่นแพ้ผิวหนังในเด็ก ยังมีโอกาสเกิดจากภาวะแพ้อาหารได้เช่นกัน โดยมักพบอาการร่วมกับระบบอื่นๆของร่างกาย เช่น อาการหายใจติดขัด หรืออุจาระปนเลือด ในกรณีที่มีอาการเกี่ยวกับภูมิแพ้อาหารร่วมด้วย แพทย์จะมีการซักประวัติเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารที่รับประทาน เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาตามอาการต่อไป
 

วิธีการรักษาผื่นแพ้ผิวหนังในเด็ก มี 3 วิธีหลักๆ ดังนี้

  1. การดูแลผิวเบื้องต้นและการใช้ครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว อีกทั้ง แพทย์จะแนะนำวิธีการทาครีมและสอนวิธีปฏิบัติตัวในการดูแลผิวอย่างถูกต้อง เพื่อลดปัจจัยที่ทำให้เกิดผิวแห้ง รวมถึงวิธีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและการอาบน้ำอย่างถูกวิธี
  2. การใช้ยาทา เพื่อลดอาการอักเสบของผิวหนังตามที่แพทย์สั่ง โดยแพทย์จะเลือกชนิดของยาให้เหมาะสมกับลักษณะ ตำแหน่ง และความรุนแรงของผื่นบริเวณนั้นๆ และสอนการทายาอย่างถูกวิธี
  3. การรับประทานยา จะใช้เพื่อลดอาการคัน
ในการใช้ยา ทั้งยาทาและยารับประทาน ผู้ป่วยห้ามซื้อยาเองโดยเด็ดขาด เนื่องจากหากใช้ยาไม่ถูกกับโรค อาจส่งผลทำให้อาการของผู้ป่วยแย่ลงได้
อย่างไดรก็ตาม การหมั่นสังเกตอาการหรือความผิดปกติ คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เมื่อพบว่าเด็กในการดูแลมีผื่นคัน เป็นๆหายๆ ทำให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจและวินิจฉัยหาสาเหตุของโรค ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้ดูแลผิวของเด็กๆอย่างถูกวิธี ตามคำแนะนำของแพทย์ และเพื่อจะได้หายจากโรคโดยเร็วที่สุด
 
พญ. ลิลรฎา อนันตรัมพร
กุมารเวชศาสตร์ – กุมารเวชศาสตร์ตจวิทยา


 
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

แก้ไขล่าสุด: 14 กันยายน 2567

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs