bih.button.backtotop.text

New trend in perfect Health... เทรนด์ใหม่ในการมีสุขภาพดีที่ยังยืนยุคดิจิทัล

New trend in perfect Health... เทรนด์ใหม่ในการมีสุขภาพดีที่ยังยืนยุคดิจิทัล


สุขภาพเป็นภาพของความสุข ภาพของการมีร่างกายที่สมบูรณ์ มีจิตใจที่แจ่มใสเบิกบาน และดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข การมีสุขภาพดีเป็นรากฐานของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีอันเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนแสวงหาและการมีสุขภาพดีนั้นก็เป็นรากฐานของการมีอายุที่ยืนยาวอย่างมีพลังชีวิตอันจะสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยไม่ต้องพึ่งพาคนรอบตัวมากนักจึงไม่เป็นภาระของลูกหลานและสังคม แต่การจะมีสุขภาพดีได้นั้นเราจะต้องเรียนรู้ที่จะมีชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติเสียก่อน

ในอนาคตนั้นการไปปรึกษาแพทย์กำลังจะเปลี่ยนเทรนด์ใหม่เป็นการไปปรึกษาเพื่อที่จะไม่เจ็บป่วย ไปปรึกษาเพื่อปรับปรุงไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตเพื่อที่จะมีสมรรถภาพของร่างกายและจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังในการสร้างสรรค์ ไม่รอจนเจ็บป่วยแล้วจึงค่อยไปรักษา แต่จะศึกษาหาความรู้ว่าควรจะตรวจเตรียมตัวอย่างไร ควรจะมีการดำเนินชีวิตทั้งในด้านการกิน การอยู่ การออกกำลังกายและการพักผ่อนอย่างไร จึงจะสอดคล้องกับกรรมพันธุ์ของตนเองที่ได้รับมาจากบรรพบุรุษ

การแพทย์ในอนาคตสำหรับคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลจึงจะเป็นการแพทย์เฉพาะตัวบุคคลหรือที่เรียกกันว่า Personalized Medicine นั่นเอง และการมีสุขภาพดีก็จะเริ่มต้นการตรวจปัจจัยเสี่ยงทั้งหลายที่จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยเป็นโรคเรื่องที่ไม่ติดต่อที่เรียกกันว่า Non communicable disease หรือ NCD ที่เกิดจากการเสื่อมชราจากการใช้งานของร่างกายในการดำเนินชีวิตประจำวัน และปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตไม่ให้เกิดปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกที่จะมากระตุ้นการเกิดโรคต่างๆ ดังกล่าวรวมทั้งการตรวจว่าเราควรที่จะออกกำลังกายแบบไหน รับประทานอาหารชนิดใดอย่างไร จะกำจัดสารพิษต่าง ๆ ที่ได้รับมาจากสิ่งแวดล้อมในแต่ละวันได้อย่างไร และเมื่อสามารถที่จะปรับตัวให้สอดคล้องกับกรรมพันธุ์ของตนเองและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดโรคจากปัจจัยเสี่ยงที่ตรวจพบดังกล่าวได้แล้วก็จะทำให้สามารถที่จะมีชีวิตที่มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี

เทรนด์ใหม่ในเรื่องของสุขภาพจึงเป็นเรื่องของการมีชีวิตที่กลมกลืนและประสานสอดคล้องกับธรรมชาติของชีวิตร่วมกับการใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่อย่างผสมกลมกลืนตามหลักการของการแพทย์ เพื่อการมีชีวิตที่ยืนยาวหรือ Integrated Longevity Medicine นั่นเอง

พื้นฐานของการมีสุขภาพที่สมบูรณ์แบบ
เริ่มจากการเรียนรู้ร่างกายของเราชีวิตของเราในแต่ละวันว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับระบบต่างๆ ของร่างกายเรา...
ร่างกายของคนเรานั้นประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ ที่จะทำงานประสานสอดคล้องกันเพื่อการมีสุขภาพที่ดี ส่วนที่เล็กที่สุดของอวัยวะเราเรียกว่า "เซลล์" ซึ่งจะประกอบด้วยผนังเซลล์ นิวเคลียสหรือดีเอ็นเอที่จะเสมือนเป็นพิมพ์เขียวที่จะใช้ในการสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพไปตามเวลา และส่วนประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในเซลล์เนื้อเยื่อของคนเราก็คือไมโตครอนเดรียซึ่งเป็นแหล่งพลังงานให้เซลล์ เมื่อคนเราอายุมากกว่า 35 ปี การแบ่งเซลล์จะลดลง เราจะมีเซลล์ใหม่มาทดแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพไปตามเวลาน้อยลง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของการแก่ชราตามวัย

ในแต่ละวันคนเราจะได้พลังงานจากอาหารที่รับประทานเข้าไปผสมกับออกซิเจนที่หายใจเข้าไปเกิดปฏิกริยาที่เรียกว่า ออกซิเดชั่น เพื่อให้เกิดพลังงานในการดำเนินชีวิตประจำวัน เมื่อมีการใช้พลังงานก็จะเกิดของเสีย ที่เรียกว่า อนุมูลอิสระ ที่จะทำให้เซลล์เนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ เสื่อมก่อนวัยถ้าไม่ได้รับการกำจัดออกไป ธรรมชาติทำให้ในเวลาที่เราเข้านอนและหลับสนิทในความมืดนั้นจะเกิดการผลิตฮอร์โมนต่าง ๆ ออกมาเพื่อที่จะทำให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้เป็นปกติและฮอร์โมนบางชนิดก็ทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระไปด้วยเพื่อที่จะป้องกันการแก่ชรา

แนวทางการดำเนินชีวิตเบื้องต้นที่จะทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง จิตใจแจ่มใสเบิกบานนั้น มีหลากหลายรูปแบบแต่ที่ยอมรับกันมากที่สุดว่าเป็นเทรนด์ในอนาคตของการดูแลสุขภาพก็คือ

1. อาหารสุขภาพ
การรับประทานอาหารที่ครบถ้วนทุกหมวดหมู่ ด้วยการรับประทานอาหารที่ให้พลังงานมากจำพวกแป้ง น้ำตาลและไขมันในตอนเช้า และรับประทานอาหารที่มีส่วนซ่อมแซมและต่อต้านอนุมูลอิสระ อันได้แก่ โปรตีนและพืชผักผลไม้สด ในตอนเย็น โดยมีสโลแกนง่าย ๆ ว่า มือเข้ารับประทานอย่างราชา มื้อกลางวันแบบคนธรรมดา และมื้อเย็นแบบยาจก รวมไม่รับประทานอาหารที่เค็มจัดและหวานจัด และไม่บริโภคแอลกอฮอล์

2. ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
การออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินและช่วยในการไหลเวียนของโลหิต มีการศึกษาวิจัยพบว่าการออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที โดยเฉพาะการเดินนั้นจะช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนต่อต้านความแก่ชราด้วย

3. นอนหลับสนิทก่อนเที่ยงคืนในความมืด
การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอตามวงจรชีวิต ที่เรียกว่า นาฬิกาเวลาหรือ Biological clock นั้น จะมีผลทำให้มีการผลิตฮอร์โมนต่าง ๆ ที่ป้องกันและต่อต้านการแก่ชรามีการผลิตออกมาอย่างสมบูรณ์เต็มที่ จึงควรจะเข้านอนให้สามารถหลับสนิทในความมืดโดยประมาณก่อนเที่ยงคืน และควรจะใช้วิธีการตามธรรมชาติต่างๆ เพื่อทำให้นอนหลับโดยไม่ต้องใช้ยาระงับประสาทที่จะมีผลต่อการผลิตฮอร์โมนบางชนิดเมื่อใช้เป็นระยะเวลานานการเข้านอนให้หลับสนิทก่อนเที่ยงคืนจึงเป็นรากฐานของการมีสุขภาพที่สมบูรณ์แบบวิธีหนึ่ง

4. อารมณ์แจ่มใส มองโลกในทางบวก
การมีอารมณ์ที่แจ่มใส การฝึกคิดในทางบวก และการมองโลกในแง่ดี จะทำให้เกิดการหลั่งสารแห่งความสุข ที่เรียกว่า เอ็นโดฟิน ออกมาที่จะทำให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้เต็มที่ และกระตุ้นให้มีการผลิตฮอร์โมนต้านความชรา รวมทั้งทำให้การย่อยอาหารสมบูรณ์ เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารดีและครบถ้วนย่อมเป็นรากฐานของการมีสุขภาพดี

5. ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความรัก
การมีชีวิตอยู่ด้วยการมีความรักต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสิ่งรอบตัว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่สิ่งที่ดี ๆ ต่อกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และให้อภัยกันและกัน เมื่อเกิดความผิดพลาดนั้นจะทำให้จิตใจเกิดความปิติสุขในการดำรงชีวิตอันเป็นรากฐานทางจิตใจที่จะทำให้มีสุขภาพดี

ชะลอวัยอย่างมีหลักการ
การเสริมสารอาหารที่จำเป็นและได้รับไม่เพียงพอจากอาหารในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะวิตามินที่จำเป็น อันได้แก่วิตามิน บี ซี ดี และอี รวมทั้งแร่ธาตุต่าง ๆ อันได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ฯลฯ ล้วนแต่มีส่วนช่วยในผู้ที่มีความจำเป็นและได้รับสารอาหารไม่พอในชีวิตประจำวัน ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนจึงจะได้ผลดีและปลอดภัย

นอกจากนี้การตรวจดูระดับของฮอร์โมนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการมีสุขภาพดีเมื่ออายุมากกว่า 35 ปีนั้นก็เป็นเรื่องที่สมควรจะทำในยุคนี้ที่คนเราทำงานหนัก พักผ่อนน้อย เครียดง่าย ทำให้ระบบต้านความแก่ชราทำงานได้ไม่พอเพียงกับการใช้งาน เมื่อทราบแล้วว่ามีปัญหาความไม่สมดุลย์ของฮอร์โมน ก็จะได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำรงชีวิตที่ทำให้มีการผลิตฮอร์โมนออกมาอย่างพอเพียง และในกรณีที่ร่างกายไม่สามารถที่จะสร้างออกมาได้อย่างเพียงพอไม่ว่าจะเกิดขึ้นเนื่องจากการแก่ชราตามวัยหรือการดำเนินชีวิตที่เคร่งเครียดและไม่มีเวลาดูแลตนเอง การปรึกษาแพทย์ที่มีความรู้ทางด้านฮอร์โมนก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อการปรับสมดุลย์ของฮอร์โมนในร่างกาย โดยการเสริมฮอร์โมนที่จำเป็นและเป็นธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูงกว่า

การตรวจหาสารพิษจากอาหารโลหะหนักที่เป็นพิษต่อร่างกายก็เป็นเทรนด์ใหม่ในการชะลอวัยเพราะในยุคนี้ เราอยู่อาศัยในสิ่งแวดล้อมที่มีมลภาพวะที่เต็มไปด้วยสารพิษต่อร่างกาย แม้ว่าร่างกายเราสามารถที่จะกำจัดสารพิษออกไปได้ในระดับหนึ่ง แต่การที่สภาพแวดล้อมมีสารพิษมากขึ้นทั้งจากอาหาร และอากาศที่หายใจเข้าไปทำให้อวัยวะที่ทำการกำจัดพิษของร่างกายไม่สามารถที่จะกำจัดออกไปได้หมดจึงอาจจะต้องพึ่งการกำจัดสารพิษ โดยอาศัยวิธีการที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์อย่างถูกต้องและเหมาะสมเฉพาะบุคคล

เริ่มจากการดูแลสุขภาพของหัวใจ
หัวใจของคนเรานั้นประกอบด้วยกล้ามเนื้อชนิดพิเศษที่จะทำงานตลอดเวลาตั้งแต่เกิดโดยไม่มีเวลาที่จะหยุดพัก
หัวใจทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตที่ผ่านการฟอกที่ปอดเพื่อที่จะนำส่งสารอาหารและออกซิเจนไปยังทุกอวัยวะของร่างกายและสูบกลับเลือดเสียจากอวัยวะต่าง ๆ กลับมาฟอกที่ปอดเพื่อที่จะส่งโลหิตที่ดีออกไปอีกครั้ง ระบบการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดต่าง ๆ ที่ไปเลี้ยงร่างกายนั้นจะทำงานร่วมกันอยู่ตลอดเวลา และโลหิตที่ดีที่ไหลเวียนออกจากหัวใจก็จะถูกสูบฉีดเข้าหลอดเลือด

ที่ต้องระวังก็คือ การที่หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจเกิดการอุดตันจากไขมันซึ่งถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระจนไปทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ซึ่งถ้ามีการอุดตันมากก้อาจเกิดหัวใจวายได้

สัญญาณเตือนแรก ๆ ที่จะต้องระวังก็คือ ภาวะความดันโลหิตสูงที่จะเกิดล่วงหน้าก่อนที่หลอดเลือดจะตีบตันการดูแลสุขภาพของหัวใจจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การรับประทานสารอาหารบางชนิดที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของโลหิต เช่น ปลาทะเลที่มีไขมันชนิดดีที่ชื่อ ดีเอชเอและอีพีเอนั้น นอกจากจะทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีแล้วยังช่วยลดอาการอักเสบที่จะทำให้เกิดคราบไขมันอีกด้วย การศึกษาวิจัยทางการแพทย์มีข้อยืนยันว่าการได้รับโคเอ็นไซม์คิวเท็นในปริมาณ 100-200 มิลลิกรัมต่อวัน นั้นมีส่วนช่วยในการเพิ่มพลังงานให้เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจจึงเหมาะสมสำหรับผู้ที่ทำงานหนักและเคร่งเรียด รวมทั้งผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจต้องเรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและป้องกันความเครียดไม่ว่าจะเป็นจากการพักผ่อนที่พอเพียงหรือมีการสันทนาการที่เหมาะสมกับวัย รวมทั้งการเรียนรู้ที่จะฝึกคิดในทางบวกเป็นประจำ

ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
เป็นที่ทราบกันดีว่าน้ำหนักที่เกินและโรคอ้วนนั้นเป็นศัตรูร้ายต่อการมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยเฉพาะโรคอ้วนลงพุงหรือ ที่เรียกว่า Metabolic Syndrome นั้นจะยิ่งมีอันตรายมากกว่า นอกจากนี้น้ำหนักตัวที่เกินยังมีผลต่อสมรรถภาพทางเพศและทำให้มีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้าได้สูงรวมทั้งมีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่าหรือข้อสะโพกตามมาได้

การควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในมาตรฐานจึงมีความสำคัญและเป็นรากฐานของการดูแลสุขภาพ ซึ่งมีหลักการง่าย ๆดังนี้

1 รับประทานมื้อเช้าให้เต็มที่ซึ่งจะทำให้อิ่มได้นานและไม่หิวในมื้อเย็น อาหารมื้อเย็นนั้นจะต้องมีแป้งและน้ำตาลน้อย ๆหรือไม่มี แต่เน้นหนักที่พืชผักผลไม้สดและโปรตีนเพื่อช่วยซ่อมแซมร่างกายที่สึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวัน

2 ออกกำลังกาย แบบที่เรียกว่า คาร์ดีโอ ให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นกว่าปกติอย่างน้อยร้อยละ 20 ถ้าทำเป็นประจำจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายโดยเฉพาะไขมันชนิดไม่ดี

3 ควบคุมปริมาณของพลังงานจากอาหาร ที่เรียกว่า Caloric restriction จะทำให้ได้พลังงานน้อยเป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่จะควบคุมน้ำหนัก ซึ่งอาจจะทำได้ง่าย ๆ ด้วยการรับประทานอาหารในช่วงเวลา 12 ชั่วโมง และหยุดรับประทาน 12 ชั่วโมง และถ้าสามารถกระทำร่วมกับการเดินสัก 10 นาที หลังจากรับประทานอาหารทุกมือแล้วก็จะช่วยทำให้มีระดับของน้ำตาลในกระแสเลือดไม่สูงเกินไป ร่างกายจึงใช้ฮอร์โมนอินซูลินน้อยลงในการควบคุมระดับน้ำตาล ผลที่ตามมาก้คือจะช่วยกระตุ้นการผลิตฮอโมนจากสมอง ที่เรียกว่า Growth Hormone ได้ดีขึ้น มีผลช่วยทำให้จิตใจดี อารมณ์ดี นอกจากนี้ยังช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมันตามธรรมชาติอีกด้วย

ดูแลสมองให้ดี
สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดเพราะมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ และเกี่ยวข้องกับความรู้สึกนึกคิดและการดำรงชีวิตของคนเรา สมองต้องการพลังงานอย่างมากในแต่ละวันจึงปลดปล่อยอนุมูลอิสระออกมามาก เช่น กันการดูแลสมองนั้นจึงต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการที่ถูกต้องอันได้แก่

1 การฝึกสมองให้คิดในทางบวกรวมทั้งการทำ Brain exercise ต่างๆ เช่น การนั่งสมาธิและการฟังธรรมรวมทั้งการฝึกใช้สมองเพื่อที่จะจดจำเรื่องที่ดี ที่ง่ายที่สุดก็คือการร้องเพลงที่ไพเราะที่จะต้องจดจำเนื้อร้องที่ดีงามซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความจำที่ดีแล้วยังทำให้มีความสุขอีกด้วย บางรายอาจจะใช้การเรียนและฝึกเขียนภาษาจีนหรือการวาดภาพได้ผลเช่นกัน

2 การได้รับสารอาหารที่จำเป็นสำหรับสมอง อันได้แก่ น้ำมันชนิดดี เช่น น้ำมันจากปลา และถั่วเหลือง รวมทั้งวิตามินบีหลายชนิดก็มีส่วนในการบำรุงเซลล์สมองและระบบประสาท กรดอะมิโนหรือโปรตีนสกัดก็มีส่วนในการซ่อมแซมและเสริมสร้างเซลล์สมองและระบบประสาทรวมทั้งเป็นวัตถุดิบในการผลิตฮอร์โมนกันแก่ชรา ที่เรียกว่า Growth Hormone อีกด้วย นอกจากนี้สารต่อต้านอนุมูลอิสระทั้งหลายก็มีส่วนช่วยในการป้องกันเซลล์สมองเสื่อมจากการโดนอนุมูลิสระทำลาย

3 การออกกำลังกาย เป็นส่วนหนึ่งของการชะลอความเสื่อมของสมอง โดยทั่วไปแล้วการออกกำลังกายจะทำให้การไหลเวียนของโลหิตในร่างกายดีขึ้นโดยรวมอยู่แล้ว แต่การออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มโลหิตไปเลี้ยงสมองที่ดี ได้แก่ การรำมวยจีนหรือไทเก๊กนั้นจะเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น

การจะมีสุขภาพที่ดีและสมบูรณ์แบบนั้นต้องมีการลงทุน และการลงทุนในสุขภาพของตนเองนั้นเป็นการลงทุนที่มีแต่กำไรอย่างเดียว ไม่มีการขาดทุน ไม่ต้องมีการประกันความเสี่ยงใด ๆ จะได้กำไรมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับทุนที่ลงไป การเรียนรู้ที่จะลงทุนเพื่อการมีสุขภาพดีนั้นต้องเริ่มที่การเรียนรู้เรื่องราวของการมีสุขภาพที่ดีด้วยวิถีทางของธรรมชาติ และเป็นสุขภาพที่ดีจากภายในโดยการมีการดำเนินชีวิตที่ประสานสอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์และนี่เป็นก้าวย่างที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ชาติ... ในยุคดิจิทัลนี้

เรียบเรียงโดย ผศ.นพ. พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา, เวชศาสตร์การเจริญพันธ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
 
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:


แก้ไขล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2565

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs