หากคุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้ การเสริมหน้าอกอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ
 

• หน้าอกเล็กหรือไม่สมส่วน
• หน้าอกหย่อนคล้อยหลังการตั้งครรภ์หรือลดน้ำหนัก
• ขนาดหน้าอกไม่เท่ากัน
• ขาดความมั่นใจในรูปร่าง

เพื่อให้การเสริมหน้าอกของคุณราบรื่นและปลอดภัยที่สุด เราขอแนะนำขั้นตอนการเตรียมตัวดังนี้:
 

1. ตรวจสุขภาพเต้านม: หากคุณอายุเกิน 35 ปี ศัลยแพทย์อาจแนะนำให้ตรวจเต้านมเพื่อประเมินสุขภาพเต้านมก่อนการผ่าตัด การตรวจนี้จะช่วยให้คุณสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ง่ายขึ้น
2. งดยาบางชนิด: หลีกเลี่ยงยาแอสไพริน ยาต้านการอักเสบบางชนิด และวิตามินหรือสมุนไพรบางชนิดที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการมีเลือดออก
3. ปรึกษาศัลยแพทย์: พูดคุยกับศัลยแพทย์ของคุณเกี่ยวกับความคาดหวังและข้อกังวลของคุณ ศัลยแพทย์จะประเมินสภาพร่างกาย ประวัติทางการแพทย์ และความชอบส่วนตัวของคุณ เพื่อเลือกขนาดและชนิดของเต้านมเทียม ตำแหน่งของแผลผ่าตัด และวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมกับคุณ
4. เตรียมพร้อมสำหรับการพักฟื้น: จัดเตรียมเสื้อผ้าหลวมๆ ที่สวมใส่ง่าย และเตรียมคนที่จะช่วยเหลือคุณในช่วงแรกของการพักฟื้น

• เต้านมเทียมซิลิโคน: มีความนุ่มและใกล้เคียงกับเนื้อเยื่อเต้านมจริงมากที่สุด
• เต้านมเทียมน้ำเกลือ: ให้ความรู้สึกได้ทันทีเมื่อมีการรั่วซึมของถุงเต้านมเทียม

ศัลยแพทย์จะช่วยคุณเลือกชนิดของเต้านมเทียมที่เหมาะสมกับความต้องการและความคาดหวังของคุณ

• ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก (submuscular): เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อเยื่อเต้านมน้อย ช่วยปกปิดขอบของเต้านมเทียมและลดความเสี่ยงของการเกิดริ้วรอยบนผิวหนัง
• บนกล้ามเนื้อหน้าอก (subglandular): เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อเยื่อเต้านมเพียงพอ ช่วยให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติและฟื้นตัวเร็วขึ้น

• การผ่าตัด: ทำโดยศัลยแพทย์ที่ได้รับความไว้วางใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ภายใต้มาตรฐานการดมยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ ที่ชำนาญเฉพาะทางด้านการจัดการความเจ็บปวด (Acute Pain Management)  มีหลายเทคนิคให้เลือกตามความเหมาะสมของคุณ
• ผลลัพธ์: หน้าอกที่ได้รูปทรงสวยงาม เป็นธรรมชาติ และเพิ่มความมั่นใจให้คุณ
• การฟื้นตัว: ส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน และกลับไปทำงานได้ภายในไม่กี่วัน

การเสริมหน้าอกเป็นการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะเป็นการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมและมีความปลอดภัยสูงเมื่อทำโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นมีดังนี้:

• การแตกของเต้านมเทียม (Implant rupture): เต้านมเทียมอาจแตกหรือรั่วซึม ทำให้เกิดปัญหาต้องการการผ่าตัดเพิ่มเติมเพื่อแก้ไข
• ความจำเป็นในการผ่าตัดหน้าอกเพิ่มเติม (Need for additional breast surgery): บางครั้งอาจต้องทำการผ่าตัดเพิ่มเติมเพื่อตกแต่งหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการเสริมหน้าอก
• อาการปวดหน้าอก (Breast pain): ผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดหน้าอกในช่วงระยะเวลาหนึ่งหลังการผ่าตัด
• เนื้อเยื่อรอบเต้านมเทียมที่แข็งและทำให้เต้านมเทียมผิดรูป (Capsular contracture): เนื้อเยื่อรอบเต้านมเทียมอาจหดตัวและแข็ง ทำให้เต้านมเทียมเปลี่ยนรูปหรือเกิดความไม่สบาย
• ความรู้สึกที่ลดลงของหัวนมหรือหน้าอก (Potential for decreased nipple or breast sensation): ผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกว่าความรู้สึกของหัวนมหรือหน้าอกลดลง
• การติดเชื้อ (Infection): การติดเชื้อเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัด หากมีการติดเชื้อควรได้รับการรักษาโดยทันที

นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่มีโอกาสน้อย เช่น:

• เลือดออก (Bleeding): อาจเกิดการเลือดออกภายในที่ต้องการการดูแลเพิ่มเติม
•  การเกิดแผลเป็น (Scarring): แผลเป็นจากการผ่าตัดอาจมีลักษณะไม่พึงประสงค์ในบางกรณี
• การเกิดลิ่มเลือด (Blood clots): ภาวะลิ่มเลือดอาจเกิดขึ้นได้ แต่มีความเสี่ยงน้อย

หากคุณพบผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนใด ๆ หลังการเสริมหน้าอก ควรปรึกษาศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดทันที เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม
 
อย่ารอช้า! นัดหมายแพทย์วันนี้ เพื่อค้นพบศักยภาพใหม่ของรูปร่างและความมั่นใจของคุณ ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง เราพร้อมที่จะช่วยให้คุณแม่กลับมามีความสุขและมั่นใจในรูปร่างของตัวเองอีกครั้ง!