bih.button.backtotop.text

ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อตึงตัว

อาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อตึงตัวพบได้บ่อย มักมีอาการปวดที่ต้นคอ อาจร้าวไปขมับสองข้างหรือปวดทั่วศีรษะ ปวดตื้อ มึน เหมือนอะไรมาบีบมารัด อาการค่อยๆ เป็น มักเริ่มตอนบ่ายหรือเย็น อาการปวดอาจเป็นชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน หรือปีก็ได้ ขึ้นอยู่กับความเครียดและการพักผ่อน โดยทั่วไปมักไม่ปวดรุนแรงแต่ทำให้เกิดความทรมานและสูญเสียการงาน เมื่อได้พักผ่อนหรือรับประทานยาคลายกล้ามเนื้อหรือยากล่อมประสาทอาการก็จะดีขึ้น

สาเหตุ
สาเหตุของอาการปวดเกิดจากความแปรปรวนของสิ่งแวดล้อมหรือจิตใจ ภาวะเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ ทำให้เกิดความเครียดต่อร่างกายและสมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ ทำให้เกิดความไม่สมดุลในระบบประสาทอัตโนมัติจึงเกิดกล้ามเนื้อตึงตัว
 
  • การรักษาด้วยตัวเอง
    • ขณะเป็น
      • การนอนเป็นวิธีที่ได้ผลและถูกที่สุด เมื่อพักจะทำให้ระบบประสาททั้งหมดได้พัก
      • รับประทานยาแก้ปวดที่ใช้กันทั่วไป ยาแก้ปวดทำให้อาการคราวนี้ทุเลาลง แต่ไม่ได้ทำให้อาการหายขาด
    • การป้องกัน ทำได้โดยการออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว
  • ปรึกษาแพทย์เมื่ออาการไม่ทุเลาหรือเป็นซ้ำบ่อยๆ
ทั้งนี้ การคุมอาการปวดด้วยการรับประทานยาจะทำให้อาการดีขึ้นเฉพาะช่วงที่รับประทานยาเท่านั้น เมื่อหยุดรับประทานยาถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม อาการเก่าก็จะกลับมาอีก การรับประทานยาแก้ปวดโดยที่ไม่ได้หาสาเหตุเป็นการละเลยสัญญาณอันตรายที่เกิดกับร่างกาย และยังสร้างปัญหาการใช้ยาแก้ปวดเรื้อรังตามมาอีกด้วย
 
  1. การยกไหล่: ค่อยๆ ยกไหล่ทั้ง 2 ข้างเข้ามาหาหู หายใจเข้าลึกๆ ผ่อนไหล่กลับมาที่เดิม
  2. การหันศีรษะ: ค่อยๆ หันศีรษะไปทางขวาโดยไม่ต้องหันตัวไป ค่อยๆ หันกลับมาอยู่ในแนวตรง หันศีรษะต่อไปทางซ้ายแล้วค่อยๆ หันกลับมาอยู่ในแนวตรง
  3. การเอียงคอ: เอียงคอไปทางขวาเข้าหาไหล่ขวา จากนั้นเอียงกลับมาท่าตรง แล้วเอียงคอไปทางซ้ายเข้าหาไหล่ซ้าย จากนั้นเอียงกลับมาท่าตรง
  4. การก้มศีรษะ: ค่อยๆ ก้มศีรษะไปข้างหน้าจนคางแตะอก จากนั้นค่อยๆ เงยศีรษะไปด้านหลังจนสุด
  5. การยืดกล้ามเนื้อคอ: เกี่ยวมือ 2 ข้างไว้หลังศีรษะโดยให้หลังตรงและเกร็งท้องไว้ โน้มข้อศอกเข้าใกล้กันที่สุด กางศอก 2 ข้างแอ่นไปด้านหลังให้มากที่สุด

Related Treatments

Doctors Related

Related Centers

ศูนย์โรคระบบประสาท

ดูเพิ่มเติม

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

คะแนนโหวต NaN of 10, จากจำนวนคนโหวต 0 คน

Related Health Blogs