bih.button.backtotop.text

ประสบการณ์ในการรักษาโรคอ้วนด้วยการส่องกล้องเย็บกระเพาะอาหาร

 
คุณเรเน่ ผู้ป่วยอายุ 36 ปี จากประเทศออสเตรเลีย โดยเริ่มแรกคุณเรเน่มีอาการท้องเสียและรู้สึกไม่สบาย จึงมาพบแพทย์ที่บำรุงราษฎร์  หลังจากได้พบกับรศ. คลินิก นพ. ทศพล เกิดศิริชัยรัตน์ แพทย์ผู้ชำนาญการโรคระบบทางเดินอาหารและตับ และทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดจนสามารถทราบสาเหตุของอาการ จนนำไปสู่การรักษาที่พลิกชีวิตของคุณเรเน่


Mr-Rene2-(004).jpg

นพ. ทศพล วินิจฉัยว่าคุณเรเน่เป็นโรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรงมากนัก  แต่อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายเนื่องจากอาการบวมและการติดเชื้อในลำไส้หรือในท้อง ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนในเวลาใดเวลาหนึ่งของชีวิต

อย่างไรก็ตาม นพ. ทศพล ยังได้สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างจากผลตรวจเลือด และสงสัยว่าคุณเรเน่อาจเป็นโรคเลือดที่พบยาก ชื่อว่า ภาวะมีธาตุเหล็กสะสมในร่างกายมากกว่าปกติ (Hemochromatosis) ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ต้องปลูกถ่ายหัวใจและตับในที่สุด และโอกาสที่จะได้อวัยวะเพื่อปลูกถ่ายทดแทนพร้อมกันทั้ง 2 อย่างนั้นค่อนข้างน้อย เนื่องจากแพทย์สงสัยว่าอาจมีภาวะมีธาตุเหล็กสะสมในร่างกายมากกว่าปกติ  รวมถึงมีค่าการทำงานของตับผิดปกติไป แพทย์จึงวินิจฉัยเพิ่มเติมด้วยการส่องกล้องเพื่อเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อตับ ซึ่งเป็นหัตถการที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บและไม่มีรอยผ่าตัด การวินิจฉัยด้วยวิธีนี้ช่วยให้แพทย์สรุปได้ว่าไม่ใช่เพียงภาวะธาตุเหล็กในร่างกายมากกว่าปกติที่มีผลกระทบต่อตับเท่านั้น แต่การอักเสบยังเกิดขึ้นจากภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งเป็นตัวการเร่งทำลายตับ โดยเกิดจากการที่คุณเรเน่มีโรคอ้วนร่วมด้วย

 
ยอมรับและรับมือกับโรค
คุณเรเน่ และนพ. ทศพล ได้พูดคุยถึงทางเลือกในการรักษา และตัดสินใจร่วมกันในการเลือกวิธีการรักษาที่ผู้ป่วยสามารถยึดปฏิบัติได้ ซึ่งผู้ป่วยแต่ละรายมีความแตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับอาการและความร่วมมือจากผู้ป่วยในการปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยแพทย์วินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นโรค Metabolic syndrome ที่เกิดจากภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนรุนแรง ทำให้ระดับน้ำตาล และไขมันผิดปกติ  รวมถึงไขมันพอกตับ และความดันโลหิตสูง ซึ่งโรคไขมันพอกตับมีส่วนทำให้ตับอักเสบ ร่วมกับผู้ป่วยมีภาวะธาตุเหล็กในร่างกายผิดปกติ จึงมีผลทำให้ตับเสื่อมเร็วยิ่งขึ้น  วิธีการรักษาคือการลดน้ำหนักและควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยคุณเรเน่ได้เคยพยายามลดน้ำหนักมาหลายวิธีแต่ยังไม่ได้ผลระยะยาว ทางเลือกอีกทางหนึ่งที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพคือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วยการส่องกล้องเย็บกระเพาะอาหารแบบไม่ต้องผ่าตัดเพื่อลดน้ำหนัก (Endoscopic Sleeve Gastroplasty: ESG)

ซึ่งการผ่าตัดวิธีนี้จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้ โดยจะทำให้สภาวะของตับดีขึ้น รวมถึงรักษากลุ่มโรคที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารที่ผิดปกติและป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้
 
แพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางของบำรุงราษฎร์
นพ. ทศพลได้รับการฝึกฝนการผ่าตัดส่องกล้องวิธีนี้กับแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางด้านระบบทางเดินอาหารและแพทย์ผู้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีในการทำ advanced endoscopy procedures ในสหรัฐเอมริกา ทำให้แพทย์สามารถทำหัตถการหลายอย่างได้โดยที่ไม่ต้อผ่าตัดเปิดแผลทางหน้าท้องเหมือนในอดีต มีความปลอดภัยมากขึ้นและให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าสำหรับผู้ป่วย ดังนั้นเทคนิคการส่องกล้องผ่านทางปากที่นพ. ทศพลนำมาใช้ จึงเป็นเทคนิคที่มีอัตราภาวะแทรกซ้อน ภาวะติดเชื้อและกรดไหลย้อนต่ำกว่าการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารแบบดั้งเดิมอื่นๆมาก


Dr-Tos-(002).jpg

ก้าวแรกสู่การมีสุขภาพที่ดีของคุณเรเน่คือการตัดสินใจเข้ารับการส่องกล้องเย็บกระเพาะอาหารแบบไม่ต้องผ่าตัดเพื่อลดน้ำหนัก  คุณเรเน่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและกลับบ้านได้ในวันรุ่งขึ้นหลังการผ่าตัด..นับเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพชีวิตที่ดีที่คุณเรเน่ได้รับการดูแลจากนพ. ทศพลและแพทย์ผู้ชำนาญด้านต่อมไร้ท่อ รวมถึงทีมสหสาขาวิชาชีพ เช่น นักโภชนาการผู้ที่คอยดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งทางโทรศัพท์ การรับส่งข้อความและการนัดพบเพื่อประเมินผลการรักษาในคลินิกอย่างต่อเนื่อง
 
คุณเรเน่สามารถลดน้ำหนักจาก 128 กิโลกรัม เหลือ 104 กิโลกรัม ภายในเวลา 8 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 19% เมื่อเทียบกับน้ำหนักก่อนทำหัตถการและยังคงพยายามปรับปรุงการใช้ชีวิตประจำวันให้มีสุขภาพดียิ่งขึ้น จากอาการท้องเสียเพียงไม่กี่วัน อาจไม่ได้เป็นเพียงแค่อาการท้องเสียธรรมดา แต่เป็นเงื่อนงำที่ผู้ป่วยและแพทย์ร่วมกันเพื่อแก้ไขปริศนานี้
 
หากคุณพบว่ามีอาการหรือกลุ่มอาการของโรคที่อาจจะคล้ายคลึงกับอาการของคุณเรเน่ สามารถเข้ารับคำปรึกษาและรักษาที่ได้มาตรฐานจากทีมสหสาขาวิชาชีพซึ่งประกอบด้วยแพทย์เฉพาะทางด้านโรคหัวใจ แพทย์ต่อมไร้ท่อ แพทย์โรคปอด ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญด้านผ่าตัดกระเพาะอาหาร จิตแพทย์และนักโภชนาการ  รวมไปถึงแพทย์อายุรศาสตร์ทางเดินอาหารที่สามารถส่องกล้องเย็บกระเพาะอาหารแบบไม่ต้องผ่าตัดเพื่อลดน้ำหนัก การได้รับการดูแลจากทีมแพทย์เฉพาะทางทำให้มั่นใจได้ถึงแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยและและได้รับผลการรักษาที่ดีและยั่งยืน นอกเหนือไปจากหัตถการดังกล่าวแล้ว การรักษายังรวมไปถึงการรักษาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการส่องกล้องหรือการผ่าตัด เช่นการรักษาด้วยยา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมของผู้ป่วยและแรงจูงใจในการลดน้ำหนักเพื่อรักษาโรคอ้วน ทีมแพทย์และทีมสหสาขาวิชาชีพของเราพร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอตลอดระยะเวลาการรักษา
 
“ขอบคุณโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ นพ.ทศพลและทีมพยาบาลช่วยดูแลรักษาตัวผมและผู้ป่วยในประเทศไทย”


Mr-Rene1-(002).jpg
 
คุณเรเน่กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในความเห็นผม มีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างการดูแลรักษาทั่วไปและการดูแลรักษาด้วยความเอาใจใส่อย่างแท้จริง ซึ่งนพ. ทศพล ทีมพยาบาลและสหวิชาชีพพวกเขาดูแลเอาใจใส่ผมอย่างแท้จริง และปฏิบัติต่อผมราวกับเป็นคนในครอบครัวของเขา”
 

 
 
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

ประสบการณ์ในการรักษาโรคอ้วนด้วยการส่องกล้องเย็บกระเพาะอาหาร
คะแนนโหวต 0 of 10, จากจำนวนคนโหวต 0 คน

Related Health Blogs