bih.button.backtotop.text

วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน

โรคหัด คางทูม และหัดเยอรมัน เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการที่ร้ายแรงตามมาได้ สามารถแพร่จากคนสู่คนได้ง่าย โดยผ่านทางละอองเสมหะหรือการสัมผัสโดนสารคัดหลั่งต่างๆ จากจมูกหรือลำคอของผู้ที่มีเชื้อ ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน
 
  อาการ โรคแทรกซ้อน
โรคหัด ไข้ ไอ มีน้ำมูก และตาแดง มีน้ำตาไหล โดยส่วนใหญ่มักตามด้วยผื่นทั่วตัว การติดเชื้อในหู ท้องร่วง และการติดเชื้อในปอด อาจทำลายสมองหรือทำให้เสียชีวิตได้ (เกิดน้อย)
โรคคางทูม ไข้ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ เหนื่อยล้า
เบื่ออาหาร และต่อมน้ำลายบวม
หูหนวก สมองอักเสบหรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อัณฑะหรือ
รังไข่บวมเจ็บ หรือทำให้เสียชีวิตได้ (เกิดน้อยมาก)
โรคหัดเยอรมัน ไข้ เจ็บคอ มีผื่น ปวดหัว และระคายเคืองตา
  • อาการปวดข้อซึ่งพบได้บ่อยถึง 50% ในผู้ป่วยหญิง
  • หากได้รับเชื้อขณะตั้งครรภ์ อาจแท้งหรือบุตรที่คลอดออกมาอาจมีความบกพร่องร้ายแรงแต่กำเนิดได้
 
 

ใครควรได้รับวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน
 

เด็ก

 ฉีด 2 เข็ม: เข็มที่ 1 เมื่ออายุ 9-12 เดือน
  เข็มที่ 2 เมื่ออายุ 18 เดือน หรือห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 3 เดือน

ผู้ใหญ่

  • ในกรณีที่ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีนหรือไม่มีภูมิคุ้มกัน: ให้ฉีด 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน

  • ในกรณีที่มีประวัติการฉีดวัคซีน MMR 1 เข็ม: ให้ฉีดกระตุ้น 1 เข็ม

  • ผู้ป่วยกลุ่มพิเศษ เช่น ติดเชื้อเอชไอวี หรือมีแผนว่าจะตั้งครรภ์: ให้ฉีด 1-2 เข็ม ขึ้นกับภาวะของผู้ป่วยแต่ละราย (กรุณาปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม)


ควรทำอย่างไรหากไม่สามารถมาฉีดวัคซีนตามกำหนดนัด

ควรปรึกษาแพทย์กรณีไม่สามารถมาฉีดวัคซีนนี้ตามกำหนด โดยทั่วไปกรณีลืมเข็มที่ 2 สามารถฉีดต่อได้โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ สิ่งสำคัญคือท่านควรมารับวัคซีนให้ครบตามขนาดที่แนะนำเพื่อประสิทธิผลในการป้องกันโรคของวัคซีน
 

ใครที่ไม่ควรได้รับวัคซีน

  • มีอาการแพ้ร้ายแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต จากการได้รับวัคซีน MMR ครั้งที่ผ่านมา
  • ตั้งครรภ์หรือคิดว่าตัวเองอาจตั้งครรภ์ ขณะตั้งครรภ์ไม่ควรได้รับวัคซีนนี้ ควรคุมกำเนิดเป็นเวลาอย่างต่ำ 4 สัปดาห์หลังได้รับวัคซีนนี้
  • มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เนื่องจากโรค (เช่น มะเร็ง หรือเอชไอวี) หรือการรักษา (เช่น ได้รับสเตียรอยด์ หรือเคมีบำบัด)
  • มีบิดามารดา พี่น้องที่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
  • เคยมีภาวะโรคที่ทำให้ฟกช้ำหรือเลือดออกได้ง่าย
  • เพิ่งได้รับการเปลี่ยนถ่ายหรือได้รับเลือดหรือส่วนประกอบต่างๆ ของเลือด ควรเลื่อนการให้วัคซีน MMR ออกไปเป็นเวลา 3 เดือนขึ้นไป
  • ป่วยเป็นวัณโรค
  • ได้รับวัคซีนอื่นในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากวัคซีนเชื้อเป็นถ้าได้รับในระยะเวลาใกล้กันเกินไปอาจมีผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนได้
  • ผู้ป่วยที่กำลังป่วยปานกลางถึงหนัก ผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรเลื่อนการรับวัคซีนรวมชนิดนี้ออกไปก่อนจนกว่าจะดีขึ้นหรือหายดี
 

อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดจากการรับวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน

วัคซีนรวมชนิดนี้อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ยารุนแรงได้ อย่างไรก็ตามการป่วยหนักหรือถึงแก่ชีวิตหลังได้รับวัคซีนรวมชนิดนี้มีอัตราน้อยมาก และเด็กส่วนมากที่ได้รับวัคซีนรวมชนิดนี้ไปแล้วมักไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้น
 
อาการไม่พึงประสงค์ที่พบทั่วไปและไม่รุนแรง
  • มีไข้ (1 ใน 6 คน)
  • มีผื่นเล็กน้อย (1 ใน 20 คน) 
** อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นและหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์หลังรับวัคซีน
อาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงปานกลาง
  • ชัก (จากไข้สูง) หลังได้รับวัคซีน ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ 1 ใน 3,000 คนที่ได้รับวัคซีนชนิดนี้
  • อาการปวดและข้อแข็งตึงซึ่งโดยส่วนมากพบในเพศหญิงผู้ใหญ่ (1 ใน 4 คน)
  • ภาวะเกล็ดเลือดต่ำชั่วคราวซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเลือดไหลออกผิดปกติได้ (1 ใน 30,000 คน)
  • อาการผื่นทั่วตัว
อาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง (พบได้น้อยมาก)
  • หูหนวก ชักระยะยาว หมดสติ หรือระดับการรู้สึกตัวต่ำ สมองถูกทำลาย (พบน้อยมากและไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดขึ้นจากวัคซีนหรือไม่)
  • ปฏิกิริยาแพ้ยาที่รุนแรง (พบน้อยกว่า 1 ในล้านคน) ได้แก่ หน้าและคอบวม หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว มักเกิดขึ้นไม่กี่นาทีถึงชั่วโมงหลังได้รับยา
** หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ทันที
***หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัคซีน กรุณาสอบถามแพทย์ เภสัชกร หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้อง***


อันตรกิริยาระหว่างยา (ผลต่อยาอื่น)

ผู้ป่วยที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกันอยู่ เช่น azathioprine, methotrexate หรือยากลุ่มสเตียรอยด์ ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยจะลดลง ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากวัคซีนนี้ได้ หรืออาจมีผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนเชื้อเป็น ดังนั้นผู้ที่รับประทานยาในกลุ่มนี้หรือกลุ่มอื่นๆ อยู่ ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนที่จะรับการฉีดวัคซีน
 
เอกสารอ้างอิง
  • Centers for Disease Control and Prevention. MMR (measles, mumps, and rubella) vaccine: What you need to know. Available from: https://www.cdc.gov/vaccines/hcp/vis/vis-statements/mmr.pdf [Accessed 12 June 2023].
  • สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย. ตารางการให้วัคซีนในเด็กไทย แนะนำโดย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย 2566. เข้าถึงได้จาก: https://www.pidst.or.th/A1291.html [เข้าถึงเมื่อ 12 มิถุนายน 2566].


 

รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2568

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs