หน้าตาและผิวพรรณที่ผ่านวันเวลานั้นไม่อาจปกปิดได้โดยง่าย เพราะสัญญาณแห่งวัยและผลจากการใช้ชีวิตอย่างไม่มีคุณภาพนั้นจะปรากฏที่ผิวเป็นจุดแรก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากคุณ ผู้หญิงหลายคนจะทุ่มเททั้งเวลา เงินทองและความพยายามสารพัดเพื่อ ความงาม อ่อนเยาว์ และดูสุขภาพดี

หน้าตาและผิวพรรณที่ผ่านวันเวลานั้นไม่อาจปกปิดได้โดยง่าย เพราะสัญญาณแห่งวัยและผลจากการใช้ชีวิตอย่างไม่มีคุณภาพนั้นจะปรากฏที่ผิวเป็นจุดแรก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากคุณ ผู้หญิงหลายคนจะทุ่มเททั้งเวลา เงินทองและความพยายามสารพัดเพื่อ ความงาม อ่อนเยาว์ และดูสุขภาพดี

ศัตรูของผิวสุขภาพดี

มีหลากหลายปัจจัยที่เป็นอุปสรรคของการมีผิวพรรณที่ดูดี ไม่ว่าจะ เป็นพันธุกรรม แสงแดด มลภาวะ การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ การขาดการออกกำลังกายและวัยที่มากขึ้น

แต่ยังโชคดีที่คุณสามารถป้องกันผิวจากการถูกทำลายได้ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตให้มีคุณภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันเทคโนโลยี ใหม่ ๆ และเทคนิคทางการแพทย์ที่น่าตื่นตาตื่นใจในการฟื้นฟูและพลิกฟื้น ผิวพรรณที่เสียหายก็มีส่วนช่วยให้ผู้คนนับล้านคนทั่วโลกได้กลับมามีผิวพรรณที่อ่อนเยาว์อีกครั้ง

เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะ ผลิตโมเลกุลออกซิเจนที่เรียกกันว่า "อนุมูลอิสระ" ขึ้นมา ซึ่งโมเลกุลเหล่านี้จะเพิ่มจำนวนขึ้นจากการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อยู่ท่ามกลาง มลพิษและแสงแดด รวมถึงจากอาหาร ที่เรารับประทานอยู่ทุกวัน อนุมูลอิสระ เหล่านี้จะทำให้คอลลาเจนซึ่งเป็นโครงสร้างไฟเบอร์ที่อยู่ใต้ผิวหนังลดน้อยลง ส่งผลให้ผิวขาดความ ยืดหยุ่น แห้งง่าย กระบวนการผลิต เซลล์ผิวใหม่ช้าลง ริ้วรอยเริ่มปรากฏ พร้อม ๆ กับผิวพรรณที่เหี่ยวย่น และหย่อนคล้อย

การใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพผิว เพราะการออกกำลังกายอย่าง สม่ำเสมอวันละครึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละสี่ถึงห้าครั้งจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันและการหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น ผลการศึกษายังแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายช่วยให้อารมณ์ดีและคิดในแง่บวกซึ่งช่วยไม่ให้คุณต้องมีริ้วรอยที่เกิดจากการหน้านิ่วคิ้วขมวด

"การจะมีผิวสวยดูสุขภาพดีได้นั้น ต้อง ใช้หลายตัวช่วยเลยค่ะเพราะยิ่งอายุมาก ผิวก็ยิ่งเสียมาก ดังนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีมากขึ้น เช่น ไม่สูบบุหรี่ ลดการดื่ม แอลกอฮอล์ ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ รับประทาน อาหารให้ครบทุกหมู่ เน้น อาหารไขมันต่ำ และควร ทานผักผลไม้ให้มาก ๆ ด้วย" พญ. นุสรา วงศ์รัตนภัสสร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านผิวพรรณแนะนำ

แสงแดด ตัวร้ายทำลายผิว

ในขณะที่ชาวตะวันตกถือว่าผิวจากการอาบแดดนั้นแสดงถึงความมีสุขภาพดีและมีชีวิตชีวา แต่แท้จริงแล้วแสงแดดนับเป็นศัตรูตัวฉกาจ ของผิวเลยทีเดียวโดยเฉพาะกับชาวตะวันตกหรือชนชาติอื่น ๆ ที่มีผิวขาว เพราะเมื่อเทียบกับผิวของชาวเอเชียแล้ว ผิวของชาวตะวันตกนั้นมี เมลานิน (เม็ดสี) น้อยกว่า ทำให้ป้องกันรังสีจากแสงอาทิตย์ได้ น้อยกว่าเช่นกัน ดังนั้นจึงมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งสูงกว่าและ แก่เร็วกว่าด้วย

คนเอเซียและคนผิวสีน้ำตาลจะมีเมลานินมากกว่าคนผิวขาวทำให้ได้รับการปกป้องจากแสงแดดมากกว่า และเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งผิวหนัง น้อยกว่า แต่ไม่ว่าจะมีผิวสีใด การโดนแดดนาน ๆ ย่อมทำให้ผิวคล้ำเสีย มีจุดด่างดำ เม็ดสีผิดปกติ และเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้เสมอ

การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมก็ทำให้ผิวเสียเช่นกัน “ รังสีอัลตร้าไวโอเล็ต (รังสียูวี) ทุกวันนี้แรงกว่าที่ผ่านมาเพราะปริมาณโอโซนน้อยลง” พญ. นุสรา อธิบาย “ และการที่เราต้องผจญกับรังสียูวีทุกวันนั้นทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังสูง”และไม่ว่าผิวของคุณจะอยู่ในประเภทใดก็ควรใช้โลชั่นกันแดดให้เป็นนิสัย โดยเลือกที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรทาอย่างน้อย 30 นาทีก่อนออกแดด และทาซ้ำทุก ๆ 2 - 3 ชั่วโมงทุกวัน...เพื่อผิวสวย

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประจำวันแม้เพียงเล็กน้อยก็ช่วยให้คุณมีผิวสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ได้แล้ว ซึ่งคุณหมอนุสราแนะนำให้รับประทาน วิตามินอี (200 - 400 IU) และวิตามินซี (500 - 1000 mg) เพื่อช่วย

กระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนรวมทั้งเสริมแคลเซียม (600 - 1000 mg) ในกรณีที่คุณมีอายุมากกว่า 40 ปี นอกจากนี้ ก็มีน้ำมันอีฟนิ่ง พริมโรสและ สารสกัดจากชาเขียวที่ให้ประโยชน์แก่ผิวพรรณเช่นกัน

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลายชนิดที่มีส่วนผสมของวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีจะช่วยต่อต้านการเกิดริ้วรอย เสริม สร้างคอลลาเจนและช่วยบรรเทาผิวคล้ำเสียจากแดด วิตามินซียังทำให ้ผิวกระจ่างใสด้วยการลดปริมาณเมลานินอีกด้วย

สำหรับวิตามินเอจะช่วยต่อสู้กับริ้วรอยแห่งวัย กระ และปัญหาผิวพรรณ หลังคลอดที่มักเกิดกับผู้หญิงเอเชียที่สำคัญ ก่อนจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว คุณควรทราบก่อนว่า มีผิวประเภทใด หากผิวแห้งก็ควรใช้มอยซเจอไรเซอร์ทุกวั น แต่ถ้าผิวมัน ควรเน้นเรื่องความสะอาดและลงมอยซเจอไรเซอร์เพียงบาง ๆ ส่วนผู้ที่มี ผิวแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมและสารสกัด สมุนไพรเพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้

นวัตกรรมของการรักษาผิว

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการแพทย์ในปัจจุบัน ช่วยใ ห้การดูแลรักษาผิวที่ร่วงโรยทำได้อย่างสะดวกขึ้นประหยัดเวลายิ่งกว่า รวมทั้ง เจ็บน้อยกว่าเดิมโดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการทำศัลยกรรมอีกต่อไปคุณสามารถทำทรีตเมนท์ปรนนิบัติผิววันนี้และกลับไปทำงานได้เลยในวันรุ่งขึ้น

พญ. นุสรา กล่าวถึง Long Pulse YAG Laser ซึ่งเป็นการปฏิวัติการทำทรีตเมนท์ผิวว่า ก่อนหน้านี้การกำจัดไฝ ร่องรอยแห่งวัยและหูดนั้นจะต้อง ผ่าตัดด้วย Co2 เลเซอร์เท่านั้น ผู้ป่วยต้องถูกฉีดยาชาและจะกลับบ้าน ได้ก็ต่อเมื่อหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง แต่เมื่อมีการนำเลเซอร์ที่มีลำแสงเฉพาะเจาะจง (YAG Laser) มาใช้เวลาในการทำทรีตเมนท์ผิวก็เหลือเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นนอกจากนี้ยังมี Q-switchedNd: YAG Laser สำหรับการรักษารอยดำ ผิวคล้ำเสียจากแสงแดดและลบรอยสัก

ส่วน Erbium YAGLaser มักใช้ลบริ้วรอยแห่งวัย ผิวหมองคล้ำปรับ ผิวให้เนียนเรียบและลบรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวซึ่งการรักษาส่วนใหญ่มักเห็นผลได้ภายในเวลาไม่นานและใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์หรือน้อยกว่าในการพักฟื้นผิว

นอกจากการใช้เลเซอร์แล้ว ปัจจุบันยังมีเทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัย ยิ่งกว่า นั่นคือ การใช้แสงบำบัด ( Light Therapy ) สำหรับรักษาผิวที่คล้ำเสียจากแสงแดด ปัญหา ริ้วรอยแห่งวัย และผิวหย่อนคล้อย และ การทำเทอร์มาจ ( Thermage) ซึ่งเป็นการใช้ความถี่ของคลื่นวิทยุในการยกกระชับผิวที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี ยังมีนวัตกรรมความงามอีกหลากหลายที่ใช้ได้ผลในการฟื้นฟู สภาพผิว อาทิ  โบท็อกซ์ ( Botox) การฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของใบหน้าซึ่งผลจะคงอยู่ราว 3 - 6 เดือน
    

• การผลัดเซลล์ผิว ( Chemical Peel) ช่วยกำจัดริ้วรอยบาง ๆ และทำให้ผิวเรียบเนียนโดยเฉพาะบริเวณดวงตาและริมฝีปาก
• การฉีดเพื่อเติมร่องรอยลึก ( New Filler Injections) มักใช้ฉีดริมฝีปากให้ดูอิ่มเอิบขึ้น รวมถึงลดริ้วรอยแห่งวัย และความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนังสามารถอยู่ได้ถึง 1 ปี
• การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี ( Microder-mabrasion) ใช้ในการลดร่องรอยในชั้นผิวที่ตื้นมากและฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาดูสุขภาพดีอีกครั้ง  
• การปรับผิวด้วยเลเซอร์ ( Laser Resurfacing ) ใช้ในการรักษาผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดด แผลเป็นและปัญหาอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับ ผิวหน้า ทั้งยังได้ผลดีกับผิวแตกลายที่เริ่มรักษาแต่เนิ่นๆ
• การฉีดเส้นเลือดขอด ( Sclerotherapy) ลดอาการเส้นเลือดขอดที่ขา รักษาโดยก ารฉีดยาเข้าไปในเส้นเลือดที่ขอดโดยตรง
• การรักษารอยหลุมสิวด้วยลูกกลิ้ง ( Dermaroller) ช่วยรักษาริ้วรอยจาง ๆ แผลเป็นและจุดด่างดำ ในขณะเดียวกันก็เสริมสร้าง คอลลาเจนด้วย