คุณพรชนก ทอมสัน โกลวเวอร์ เป็นคนไข้ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มากว่า 30 ปี ปัจจุบันคุณพรชนกพักอาศัยอยู่ที่ประเทศไทยและประเทศอังกฤษ และต้องเดินทางไปมาระหว่าง 2 ประเทศ แต่คุณพรชนกเลือกที่จะรักษาตัวที่ประเทศไทยกับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เพราะมั่นใจในความรู้และความชำนาญของแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ที่ช่วยให้การผ่าตัดที่พลิกฟื้นคุณภาพชีวิตของคุณพรชนกหลังจากนั้น
เมื่อหลายปีก่อนคุณพรชนกมีอาการปวดหลังเนื่องจาก
กระดูกสันหลังเสื่อมกดทับเส้นประสาทมาประมาณ 7 ปีและได้รักษากับ
พล.ต.ต.นพ. ชาญชิต แสงแก้วมาโดยตลอด แพทย์ได้รักษาด้วยการให้รับประทานยา ซึ่งทำให้อาการของคุณพรชนกดีขึ้นในช่วงแรกๆ แต่อาการปวดหลังเริ่มรุนแรงมากขึ้นในระยะสองปีหลัง เนื่องจากกระดูกสันหลังเสื่อมกดทับเส้นประสาท ทำให้คุณพรชนกไม่สามารถยืดขาได้และมีความรู้สึกเหมือนขาซ้ายสั้นกว่าขาขวา จนเดินขากระเผลกเหมือนคนพิการ ทุกๆวันอาการของคุณพรชนกจะเริ่มดีขึ้นหลังออกกำลังกายได้ประมาณ 1 ชั่วโมงแต่วันรุ่งขึ้น อาการปวดจะกลับคืนมาอีก ทำให้ต้องรับประทานยาเป็นระยะเวลานานมากขึ้นจากเดิมรับประทานเพียง 3 วันก็หาย ระยะหลังต้องรับประทานยาเป็นเวลานาน 1-2 สัปดาห์ อาการจึงจะดีขึ้น นอกจากนี้ ยายังมีผลข้างเคียงทำให้รู้สึกง่วง อยากนอนทั้งวัน ทำให้คุณพรชนกรู้สึกว่าอยากรักษาอาการปวดหลังให้หายขาดโดยไม่ต้องรับประทานยาอีกต่อไป นพ. ชาญชิตจึงแนะนำให้มาพบกับ
นพ. สมโภชน์ ไพบูลย์ศิริจิต เพื่อทำการช่วยรักษาอาการปวดหลังต่อโดยการฉีดสเตียรอยด์หรือการผ่าตัด
น.พ. สมโภชน์ได้รักษาด้วยการให้คุณพรชนกรับประทานยาเพิ่มขึ้นอีกระยะหนึ่ง แต่อาการของคุณพรชนกก็ไม่ดีขึ้น หลังจากพบกับแพทย์ได้ 4 ครั้ง น.พ. สมโภชน์จึงได้แนะนำให้รักษาด้วยการฉีดสเตียรอยด์หรือการผ่าตัด ซึ่งคุณพรชนกได้ตัดสินใจใช้วิธีการผ่าตัดจากการศึกษาด้วยตนเองและจากคำแนะนำของ น.พ. สมโภชน์ ซึ่งได้ตรวจร่างกายและทำการทดสอบหลายอย่าง ก่อนลงความเห็นว่าอาการของคุณพรชนกเหมาะสมกับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด โดยใช้วิธี
การผ่าตัดโพรงประสาทตีบแคบผ่านกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscopic Decompression)
ความรู้สึกก่อนการผ่าตัด
ตอนเริ่มแรกคุณพรชนกรู้สึกกลัวการผ่าตัดมาก เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ ใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงครึ่งและต้องวางยาสลบ ก่อนการผ่าตัด คุณพรชนกได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เช่น ตรวจโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ตรวจเลือด รวมถึงการตรวจ MRI จนทำให้ยิ่งรู้สึกกลัวการผ่าตัดมากขึ้นและกังวลว่าขั้นตอนก่อนการผ่าตัดต้องมีการตรวจเยอะขนาดนี้ โดย น.พ. สมโภชน์ได้อธิบายให้ฟังจนมีความเข้าใจว่าการตรวจร่างกายว่าผู้ป่วยไม่มีโรคหรืออาการแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วย หากการตรวจร่างกายผ่านทุกขั้นตอน คุณพรชนกจะสามารถผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย
คุณพรชนกกล่าวว่า “คุณหมอสมโภชน์ให้กำลังใจและให้ความรู้ อธิบายจนทำให้รู้สึกมั่นใจในการผ่าตัดครั้งนี้ว่าจะผ่านไปได้ดี เลยไม่ค่อยกังวลและมีกำลังใจมากขึ้นค่ะ”
ความรู้สึกหลังการผ่าตัด การผ่าตัดที่พลิกฟื้นคุณภาพชีวิต
คุณพรชนกได้เห็นตัวอย่างจากคนใกล้ตัวหลายคน ซึ่งเป็นโรคเดียวกันและไม่ได้รับการผ่าตัด ทำให้เดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็นเมื่อมีอายุมากขึ้น ทำให้คุณพรชนกกล่าวว่า “ถ้าไม่แก่มากแต่ต้องนั่งรถเข็น เดินทางไม่ได้ นั่งเครื่องบินไม่ได้ ไปช็อปปิ้งไม่ได้ ก็รู้สึกชีวิตมันหมดแล้ว” หลังจากการผ่าตัด ความกลัวว่าจะเดินไม่ได้ของคุณพรชนกก็หมดไปอย่างรวดเร็ว คุณพรชนกพักที่โรงพยาบาลเพียงหนึ่งคืนก็สามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ หลังจากกลับบ้านได้หนึ่งวัน สามารถเดินได้ทันทีแต่ยังมีอาการชาตั้งแต่สะโพกซ้ายลงมา ใน 2-3 วันแรกหลังการผ่าตัด คุณพรชนกยังไม่แน่ใจว่าจะเดินได้ตลอดหรือไม่เพราะบางวันดี บางวันอาจจะยังไม่ค่อยดี
คุณพรชนกเล่าว่า “สรุปคืออาทิตย์แรกหลังผ่าตัดเดินได้ปกติ ตั้งแต่ผ่าตัดจนตอนนี้สองเดือนแล้ว happy มากว่าเดินได้ปกติ ตื่นขึ้นมาไม่ต้องกลัวว่าจะทำยังไง ต้องเกาะโต๊ะ เกาะประตูเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำไหม ตอนนี้ยังมีชาอยู่แต่ 95% ดี อีก 5% คือชา แต่เพิ่งเริ่มกินยาวิตามินบีแก้เหน็บชาได้สักสองสามอาทิตย์ นพ. สมโภชน์ บอกว่าไม่เป็นไร มันจะค่อยๆหาย ตอนนี้ก็ห้ามทำอะไรที่เร็ว หุนหัน..”
คุณพรชนกเสริมอีกว่า “คิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกที่เลือกวิธีผ่าตัดครั้งนี้ เพราะรู้สึกว่าการผ่าตัดสามารถช่วยให้คนไข้ดีขึ้นในระยะเวลาสั้นจริงๆ แรกๆคิดว่าอาจจะใช้เวลานาน แต่แค่ไม่กี่สัปดาห์เองค่ะ แปลกใจว่าทำไมคุณหมอไม่แนะนำให้คนไข้ผ่าให้หมดเลย”
ความพึงพอใจในผลการผ่าตัดที่แผลเล็ก เจ็บน้อย
คุณพรชนกเป็นโรคกระดูกสันหลังเสื่อมกดทับเส้นประสาทของกระดูกสันหลังส่วนเอว ข้อที่ 34 และ 45 ดังนั้นแพทย์จึงทำการผ่าตัดรักษาด้วยการส่องกล้อง 2 จุดในการผ่าตัดครั้งเดียว คุณพรชนกกล่าวว่า “มีแผลอยู่ด้านหลังบริเวณเอว แผลเล็กมาก ประมาณ 8 มิลลิเมตร เหมือนเป็นขี้แมลงวันใหญ่ๆ ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็น น่าแปลกใจ แผลเล็กมาก ไม่มีแผลเป็น รู้สึกดีมากเลยค่ะ”
ความประทับใจต่อการบริการที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์และแพทย์
คุณพรชนกกล่าวโดยสรุปว่า “ปกติเป็นคนที่ใช้เวลาศึกษาหาข้อมูลเรื่องโรงพยาบาล คุณหมอ วิธีการรักษา เพื่อช่วยก่อนการตัดสินใจทำการผ่าตัด จึงทำให้เห็นว่าที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีหมอที่มีคุณภาพ มีความสามารถจริงๆ และเป็นโรงพยาบาลมีหมอที่ qualify จบจากมหาวิทยาลัยต่างประเทศเยอะมาก สามารถเลือกได้ว่าอายุแค่ไหน จบที่ไหนเมื่อเทียบกับที่อื่น คิดว่าถ้ามาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีโอกาสรักษาหายได้
คุณพรชนกกล่าวเพิ่มเติมว่า “ถ้าคนในครอบครัวเป็นอะไรจะเลือกมาที่บำรุงราษฎร์เลยค่ะ โรงพยาบาลที่เราคิดว่าเราเลือกสำหรับครอบครัวเราแล้ว ครอบครัวพี่น้องของเราก็มารักษาที่บำรุงราษฎร์หมด ในเรื่องของคุณภาพของหมอและการรักษาแล้ว สิ่งที่ชอบก็คือการออกแบบโรงพยาบาลที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนไปพักผ่อนที่โรงแรมระดับห้าดาวเลยค่ะ”
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 18 สิงหาคม 2566