ไข้สมองอักเสบเจอี คือ การติดเชื้อรุนแรงที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส มักเกิดในเขตชุมชนของทวีปเอเชีย แพร่ระบาด โดยยุงที่ติดเชื้อไวรัสไข้สมองอักเสบเจอี และไม่สามารถแพร่ระบาดโดยตรงจากคนสู่คนได้ ผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้สมองอักเสบเจอีสูงคือผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคนี้และพักอยู่ใน บริเวณดังกล่าวเป็นเวลานาน ผู้ที่ติดเชื้อไข้สมองอักเสบเจอีส่วนใหญ่มักไม่มีอาการแสดงใดๆ แต่เชื้อไวรัสนี้สามารถทำให้เกิด อาการป่วยตั้งแต่ไข้ ปวดศีรษะ จนถึงสมองอักเสบรุนแรง (การติดเชื้อที่สมอง)
อาการสมองอักเสบ ได้แก่ มีไข้ คอแข็ง ชัก หมดสติ หรือโคม่า ผู้ป่วยประมาณ 1 ใน 4 จะเสียชีวิตด้วยสมองอักเสบ และกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่รอดชีวิตมักเกิดความผิดปกติถาวรที่สมอง นอกจากนี้มีข้อมูลพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไข้ สมองอักเสบเจอีจะส่งผลอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้
เราสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสไข้สมองอักเสบเจอีได้อย่างไร
- การป้องกันที่ดีที่สุด คือ เลี่ยงการถูกยุงกัด
- การฉีดวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสไข้สมองอักเสบเจอีได้
วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี ที่นิยมใช้ คือ วัคซีนชนิดเชื้อเป็น ได้แก่
- CD.JEvax®: เด็กอายุ 9 เดือนขึ้นไป ฉีดวัคซีนเข้าใต้ผิวหนัง 2 เข็ม โดยเข็มที่สองฉีดห่างจากเข็มแรก 3-12 เดือน
- Imojev®: เด็กอายุ 9 เดือนขึ้นไป ฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนังเพียง 1 เข็ม แต่เพื่อผลในการป้องกันโรคที่ยาวนานขึ้น
ในกรณีเด็กอายุ 9 เดือนถึง 18 ปี อาจฉีดเข็มที่ 2 โดยห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 1-2 ปี
ใครควรได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสไข้สมองอักเสบเจอี
- ผู้เดินทางไปในทวีปเอเชียที่ควรได้รับการฉีดวัคซีน หาก:
- ต้องไปอาศัยในประเทศที่มีการระบาดของไข้สมองอักเสบเจอี
- เข้าไปพักเป็นระยะเวลานาน (ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป) ในประเทศที่มีการระบาดของไข้สมองอักเสบเจอี
- เดินทางไปกลับบ่อยๆ ในประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสไข้สมองอักเสบเจอี
- ในกรณีที่ต้องเดินทางไปพักระยะเวลาสั้นๆ (น้อยกว่า 1 เดือน) อาจพิจารณารับวัคซีน หาก:
- เข้าไปในพื้นที่ห่างไกลและมีความเสี่ยงจากการได้รับเชื้อจากการถูกยุงกัด
- ผู้เดินทางที่ไม่มีกำหนดการเดินทางแน่นอน
- เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อไวรัสไข้สมองอักเสบเจอี
ผู้ที่ไม่ควรได้รับวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี
- มีประวัติการแพ้ส่วนประกอบของวัคซีนหรือเจลาติน
- มีไข้สูง ติดเชื้อเฉียบพลัน ช่องหูอักเสบ วัณโรคที่ไม่ได้รับการรักษา
- ทุพโภชนาการ มีการแพ้และชัก
- มีโรคทางหัวใจ ตับ และไต
- ผู้ที่กำลังรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกัน
- อ่อนเพลียหรือระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ
ผลไม่พึงประสงค์หลังจากได้รับวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี
- มีไข้ (พบบ่อยในเด็ก)
- ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ (พบบ่อยในผู้ใหญ่)
- ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด
- ในเด็กอาจทำให้เกิดการร้องไห้ เบื่ออาหาร หรือมีปัญหาในการนอนหลับ
จากข้อมูลการศึกษาพบว่าผลข้างเคียงชนิดรุนแรงจากวัคซีนนี้พบได้น้อยมาก
ข้อปฏิบัติหากลืมฉีดวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี
หากลืมฉีดวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีเข็มที่ 2 ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการฉีดให้เร็วที่สุด โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่
วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีสามารถให้พร้อมกับยาหรือวัคซีนอื่นๆ ได้หรือไม่
ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกในการใช้วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีพร้อมกับวัคซีนชนิดอื่น อย่างไรก็ตามสามารถให้วัคซีนชนิดอื่นได้แต่ควรสังเกตอาการผิดปกติก่อนหรือหลังฉีดวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
ไม่ควรรับวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีหลังได้รับยาอิมมูโนโกลบูลิน (immunoglobulins) หรือเลือดที่มีส่วนประกอบของอิมมูโนโกลบูลินทันที ควรได้รับวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีหลังจากนั้นอย่างน้อย 6 สัปดาห์
การเก็บรักษา
ควรเก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส และเก็บให้พ้นแสง
ข้อมูลอ้างอิง
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 24 มีนาคม 2568