นิ่วในถุงน้ำดีเกิดจากอะไร
นิ่วในถุงน้ำดีมีลักษณะเป็นก้อนแข็งคล้ายก้อนกรวดมีหลากหลายขนาด แบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดคือ
- นิ่วจากคอเลสเตอรอล มาจากการที่ส่วนผสมของน้ำดีกับตัวคอเลสเตอรอลไม่สมดุลกัน ทำให้เกิดการตกตะกอนจับตัวกันเป็นก้อนนิ่ว
- นิ่วสีน้ำตาล เกิดจากการติดเชื้อ
- นิ่วสีดำ ส่วนใหญ่เกิดจากการแตกสลายของเม็ดเลือด พบในผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับกลุ่มเลือด
นิ่วในถุงน้ำดีทำให้เกิดอาการอย่างไรบ้าง
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ หรือมีเพียงท้องอืด แน่นท้องเป็นครั้งคราวโดยเฉพาะหลังรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาการหลักของนิ่วในถุงน้ำดีคือ อาการปวดเสียดท้องที่อาจนานตั้งแต่ 15 นาทีไปจนถึงหลายชั่วโมง อาการของนิ่วในถุงน้ำดีอาจมีได้ดังนี้
- ปวดตรงกลางท้องด้านบนหรือปวดด้านขวาบนของท้อง บางครั้งร้าวไปที่หลัง
- ปวดร้าวที่สะบักขวาหรือระหว่างสะบักทั้งสองข้าง
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- อาการดีซ่าน ตัวเหลืองและตาเหลือง
เมื่อไหร่จึงจำเป็นต้องผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี
ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องเนื่องจากนิ่วในถุงน้ำดีหรือมีการอักเสบ มีไข้ สำหรับผู้ที่มีนิ่วในถุงน้ำดีแต่ไม่มีอาการ ยังไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ยกเว้นผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดที่เสี่ยงต่ออันตรายหากต้องผ่าตัดฉุกเฉิน รวมถึงผู้ป่วยที่ไม่มีอาการแต่มีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งในถุงน้ำดี เช่น ตัวผนังถุงน้ำดีมีแคลเซียมเกาะหรือมีติ่งเนื้อร่วม
ผ่าตัดรักษานิ่วโดยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ทางเลือกใหม่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
การผ่าตัดรักษานิ่งในถุงน้ำดีทำได้ 3 วิธีด้วยกันคือ
- การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง (open surgery) ข้อดีคือเหมาะกับผู้ที่มีอาการอักเสบรุนแรงหรือมีการติดเชื้อ แต่ผู้ป่วยจะเจ็บปวดหลังผ่าตัดและมีแผลขนาดใหญ่
- การผ่าตัดโดยการส่องกล้อง (laparoscopic cholecystectomy) ศัลยแพทย์จะเจาะรูประมาณ 3-4 รูเล็กๆบริเวณหน้าท้องแล้วจึงผ่าตัดผ่านทางกล้อง ข้อดีคือแผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว
- ใช้หุ่นยนต์ช่วยในการผ่าตัด (robotic-assisted cholecystectomy) เป็นการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดระบบดาวินชีมาช่วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ข้อดีของการใช้หุ่นยนต์ช่วยในการผ่าตัดคือ แผลเล็ก เสียเลือดน้อย ฟื้นตัวเร็วขึ้น ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อหรือการเกิดไส้เลื่อนแผลผ่าตัด นอกจากนี้ยังมีข้อดีที่มากกว่าการผ่าตัดโดยการส่องกล้องคือ การผ่าตัดมีประสิทธิภาพสูงเพราะศัลยแพทย์สามารถมองเห็นภาพอวัยวะภายในได้ชัดเจนผ่านกล้องสามมิติที่มีความคมชัด นอกจากนี้แขนกลหุ่นยนต์สามารถเคลื่อนไหวโค้งงอได้มุมมากกว่าข้อมือปกติของมนุษย์ โดยสามารถหมุนได้เจ็ดทิศทางและมากกว่าเครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัดส่องกล้องที่สามารถหมุนได้เพียงสี่ทิศทาง ทำให้การผ่าตัดมีผลลัพธ์ที่ดีโดยเฉพาะในกรณีที่มีความซับซ้อน
ดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีอย่างไร
- หลีกเลี่ยงอาหารมันหรืออาหารย่อยยากภายใน 3-4 เดือนแรกหลังการผ่าตัด เพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดแน่นท้อง ท้องเสียได้ หลังจากนั้นค่อยๆเริ่มรับประทานอาหารมันหรือย่อยยากจนกระทั่งกลับมาเป็นปกติ
- หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือการออกกำลังกายหนัก 3-4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
นิ่วในถุงน้ำดีป้องกันได้หรือไม่
จากการศึกษาพบว่าการรับประทานวิตามินซีเสริมและไขมันปลาอาจช่วยป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีได้
หากพบว่ามีอาการจากนิ่วในถุงน้ำดี ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม เพราะหากทิ้งไว้จะมีอันตรายจากอาการอักเสบ การผ่าตัดรักษานิ่วในระยะที่ยังไม่อักเสบมาก สามารถผ่าตัดผ่านกล้องหรือผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์ช่วยได้ แต่หากปล่อยให้มีการอักเสบรุนแรง แพทย์จำเป็นต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ทำให้ผู้ป่วยต้องเจ็บแผล มีแผลขนาดใหญ่และพักฟื้นนาน
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2565