bih.button.backtotop.text

ประสบการณ์รักษาต่อมลูกหมากโต ด้วยวิธี UROLIFT


Patient testimonial คุณ Salvatore Esposito ผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโตวัย 66 ปี  รักษาด้วยวิธีการ Urolift


“เมื่อมาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ผมรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ทุกคนปฏิบัติกับผมเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ดูแลผมเป็นอย่างดีและไม่เคยปล่อยผมไว้คนเดียวเลย”

คุณ Salvatore Esposito หรือคุณแซมมี่ เป็นโรคต่อมลูกหมากโตมาเกือบ 10 ปี และเริ่มรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งโดยรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง ในตอนแรกคุณแซมมี่ยังมีอาการไม่มากนัก ต่อมาอาการเริ่มแย่ลง ทำให้ต้องปัสสาวะบ่อยครั้งและไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน คุณแซมมี่เล่าว่า “ผมอยู่ในสถานการณ์ที่ชีวิตผมถูกทำลายโดยสิ้นเชิง ผมไม่สามารถอยู่ห่างจากห้องน้ำได้เลย บางครั้งผมต้องกลับไปเข้าห้องน้ำทุก 30 วินาทีหรือทุก 1 นาที ผมไม่สามารถไปทานอาหารกับคนอื่นๆได้เพราะรู้สึกอาย แม้กระทั่งกับน้องชาย เราไม่สามารถทานอาหารด้วยกันได้อย่างที่ควรจะเป็นเพราะผมวิ่งเข้าห้องน้ำอยู่ตลอด และต้องคอยกังวลว่าจะทำอย่างไรหากปวดปัสสาวะระหว่างนั่งรถ พูดตรงๆผมต้องพกแผ่นซึมซับปัสสาวะติดตัวเวลาเดินทาง…มันแย่ต่อการใช้ชีวิตมาก” ต่อมาคุณแซมมี่ได้ตรวจร่างกายด้วยซีที สแกน และอัลตร้าซาวด์ แพทย์ได้พบก้อนมะเร็งที่ตับ ตับอ่อนและไต คุณแซมมี่จึงตัดสินใจมาที่บำรุงราษฎร์เพื่อขอความเห็นที่สอง (second opinion) จากนพ. คมกฤช มหาพรหม แพทย์เฉพาะทางด้านโลหิตวิทยาและมะเร็งวิทยา เมื่อแพทย์ทราบว่าคุณแซมมี่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตด้วย จึงได้แนะนำให้คุณแซมมี่มาพบกับนพ. อธิป ฉัตรสุทธิพงษ์ แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ยูโรวิทยาเพื่อทำการรักษา

 

ประสบการณ์ในการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตด้วยเทคนิค Urolift

คุณแซมมี่เล่าว่า  “เมื่อมาพบกับคุณหมออธิป คุณหมออธิบายให้ฟังถึงข้อดีของการรักษาด้วยเทคนิคใหม่ Urolift ที่ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพทางเพศและรุกล้ำน้อย ผมจึงเต็มใจที่จะลองดู ในช่วงแรกหลังการรักษามีอาการแทรกซ้อนบ้างโดยยังเข้าห้องน้ำบ่อย แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว วันนี้ผมนั่งรถประมาณสองชั่วโมงครึ่งได้โดยไม่ต้องหยุดเข้าห้องน้ำระหว่างทาง แต่คนขับรถของผมกลับเป็นคนต้องหยุดเข้าห้องน้ำ (หัวเราะ) และเมื่อมาถึงโรงพยาบาล ผมก็ไม่ต้องรีบไปเข้าห้องน้ำ… ตอนนี้ผมยังต้องทานยาอยู่แต่แค่ตัวเดียว และคุณหมอบอกว่าผมจะเลิกทานยาได้ในที่สุด”

 

การรักษาที่ทำให้รู้สึกเป็นคนปกติอีกครั้งหนึ่ง

คุณแซมมี่เล่าต่อว่า “ตอนนี้ ผมรู้สึกเหมือนคนปกติทั่วไป ผมสามารถไปทานอาหารเย็นโดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเข้าห้องน้ำ 4-5 ครั้งระหว่างทานอาหาร ผมพูดได้ว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ผมรู้สึกมีความเป็นชายยิ่งกว่าเมื่อก่อน (หัวเราะ) ผมรู้สึกดีและมีความมั่นใจมากขึ้น”

 

มั่นใจในคุณภาพการรักษาของบำรุงราษฎร์

เมื่อเราถามว่าทำไมคุณแซมมี่จึงเลือกรักษาตัวที่ประเทศไทย คุณแซมมี่กล่าวว่า “ผมไม่เชื่อว่าการรักษาที่ประเทศไทยจะแย่กว่าที่ออสเตรเลีย ผมไม่มีอะไรจะ complain เกี่ยวกับโรงพยาบาลเดิม ผมมาที่บำรุงราษฎร์เพราะต้องการความเห็นที่สอง ก่อนที่จะมาที่นี่ ผมค้นหาข้อมูลว่าโรงพยาบาลใดที่ดีที่สุด เมื่อผมพบว่าบำรุงราษฎร์ติดหนึ่งในสิบโรงพยาบาลที่ดีที่สุด ผมก็ส่งอีเมลมาเพื่อขอนัดหมายกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งคือคุณหมอคมกฤช หลังจากนั้นคุณหมอคมกฤชได้แนะนำว่าที่นี่มีแพทย์ที่เก่งด้านยูโรวิทยา ผมจึงได้มาพบกับคุณหมออธิป…ทั้งคุณหมอคมกฤชและคุณหมออธิปเป็นคนที่อบอุ่นมาก ผมสามารถพูดคุยกับคุณหมอได้เหมือนกับพูดคุยกับเพื่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ พยาบาลที่นี่ก็เยี่ยมมาก ทุกอย่างดีมาก”

 
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
           E-mail: [email protected]
แก้ไขล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2567

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs