โรคต่อมลูกหมากโตเป็นโรคที่พบได้ครึ่งหนึ่งของผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปและร้อยละ 80 ของชายที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป โรคต่อมลูกหมากโตทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาในการปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ ปัสสาวะสะดุด บางครั้งอาจถึงขั้นปัสสาวะไม่ออก อาการเหล่านี้ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก การรักษาโรคต่อมลูกหมากโตมีหลายวิธีด้วยกัน ซึ่ง
UROLIFT เป็นวิธีการในรักษาโรคต่อมลูกหมากโตในประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทยเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2567
UROLIFT คืออะไร
UROLIFT (ยูโรลิฟต์) เป็นการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตแบบรุกล้ำน้อยเพื่อขยายท่อปัสสาวะที่ต่อมลูกหมากกดทับให้กว้างขึ้น โดยก่อนการทำหัตถการ แพทย์จะให้ยาสงบประสาทแบบอ่อนๆ (mild sedation) หลังจากนั้นแพทย์จะใช้เครื่องมือและส่องกล้องเพื่อนำอุปกรณ์ขนาดจิ๋ว (implants) ที่ทำจากสแตนเลส สตีลเกรดการแพทย์ (medical grade stainless steel) และโลหะพิเศษนิทินอล (nitinol) ที่มีความยืดหยุ่นสูง ผ่านทางท่อปัสสาวะเข้าไปยังต่อมลูกหมาก หลังจากนั้นแพทย์จะใส่อุปกรณ์ขนาดจิ๋วประมาณ 4-6 ตัว ขึ้นอยู่กับขนาดและความรุนแรงของโรค เข้าไปยังต่อมลูกหมากเพื่อดึงเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากให้ถ่างออกจากท่อปัสสาวะอย่างถาวร เป็นหัตถการที่ไม่มีการตัดหรือเจาะที่อวัยวะใดๆทั้งสิ้น และใช้เวลาเพียง 30 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง
ใครบ้างที่เหมาะกับ UROLIFT
- ผู้ที่ต่อมลูกหมากโตปานกลางถึงใหญ่ แต่มีขนาดไม่เกิน 100 กรัม
- ผู้ที่ยังปัสสาวะได้หรือปัสสาวะแล้ว ยังมีปัสสาวะเหลือค้างไม่เกิน 350 ซีซี
- ผู้ที่อายุมากหรือมีสุขภาพไม่แข็งแรง ที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัดใหญ่
- ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพทางเพศ
ข้อดีของการรักษาด้วย UROLIFT มีอย่างไร
- เป็นหัตถการที่แก้ไขปัญหาการปัสสาวะได้เร็ว
- ไม่ต้องใส่สายสวนปัสสาวะหลังการผ่าตัด
- รุกล้ำน้อย
- ไม่ต้องวางยาสลบ เพียงใช้ยาสงบประสาทหรือการบล็อกหลัง
- ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางเพศ
- ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล
- สามารถรักษาผู้ป่วยในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการผ่าตัดได้
เตรียมตัวอย่างไรก่อนการรักษาด้วย UROLIFT
- แจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้าถึงยา วิตามินและสมุนไพรที่รับประทานเป็นประจำทุกชนิด รวมถึงโรคประจำตัวและประวัติแพ้ยา
- งดน้ำและอาหาร 8 ชั่วโมงก่อนการทำหัตถการ
- มาถึงโรงพยาบาลก่อนการทำหัตถการอย่างน้อย 1 ชั่วโมงและควรมีญาติหรือผู้ติดตามมาด้วย
ควรปฏิบัติตัวอย่างไรหลังการรักษาด้วย UROLIFT
ควรทำกิจกรรมเบาๆ 2-3 วันหลังการทำหัตถการ หลังจากนั้นผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่ให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือการเล่นกีฬา 1 – 2 สัปดาห์
การรักษาด้วย UROLIFT มีความเสี่ยงอะไรบ้าง
อาจมีความเสี่ยงที่พบได้น้อยและมักมีอาการไม่รุนแรง เช่น
- มีเลือดปนในปัสสาวะ
- ปัสสาวะบ่อย
- ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
- อุปกรณ์ (implants) อาจเคลื่อนตัว (migration) ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยมาก
ศูนย์ทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ได้นำเทคโนโลยี UROLIFT มาใช้เพื่อรักษาโรคต่อมลูกหมากโตเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เรามีแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางด้านทางเดินปัสสาวะที่มีประสบการณ์ในการรักษาผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโตด้วยเทคโนโลยี UROLIFT ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามา ทำให้ผู้ป่วยวางใจได้ถึงผลลัพธ์ในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
เรียบเรียงโดย
นพ. อธิป ฉัตรสุทธิพงษ์
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 26 มิถุนายน 2567