Patient testimonial คุณคนิตรา พ่วงทองคำ ผู้ป่วยโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกและมะเร็งไทรอยด์
“ถ้าหนูไม่ได้รักษาที่นี่ ป่านนี้หนูคงตายไปแล้ว ทุกอย่างที่นี่ไวมาก ตั้งแต่การวินิจฉัยและเริ่มการรักษา ด้วยตัวเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของหมอ ทำให้ฟื้นตัวได้ไวและผลข้างเคียงในการรักษาน้อย”
คุณคนิตรามีอาการหูอื้อ และคลำคอพบต่อมน้ำเหลืองบริเวณหูโต จึงมาพบแพทย์ที่คลินิกพนักงาน แพทย์ได้ส่งคุณคนิตราไปพบกับ
ผศ.นพ. เข็มชาติ ตันสกุลรุ่งเรือง แพทย์เฉพาะทางด้านโสต ศอ นาสิกวิทยา แพทย์ได้ตรวจวินิจฉัยด้วยการส่องกล้องและทำ
PET CT เมื่อผลการวินิจฉัยออกมาว่าเป็นมะเร็ง แพทย์จึงได้ส่งตรวจชิ้นเนื้อ (biopsy) เพื่อดูชนิดของมะเร็ง
คุณคนิตราเล่าว่า “พอทำ PET CT ทั้งตัวก็เจอว่า มันมีจุดตรงไทรอยด์นิดนึง อาจารย์เลยใช้เข็มเจาะดูดเซลล์ไปตรวจ (FNA) ผลออกมาก็เป็น
มะเร็งไทรอยด์อีก และส่งนัดกับอาจารย์อภิชาต (พานิชชีวลักษณ์) ที่เป็นแพทย์รังสีรักษา เพื่อฟังแผนการรักษามะเร็งหลังโพรงจมูก…พอรู้ว่าเป็นมะเร็งก็อึ้ง เรียบเรียงความคิดไม่ถูก ถึงแม้เป็นพยาบาลแต่พอเจอเรื่องแบบนี้ ก็เอามาใช้ไม่ได้เลย อาจารย์อภิชาติเห็นว่าหนูค่อนข้างสับสน เลยบอกให้หนูใจเย็นๆ ไม่ต้องคิดอะไร ให้เดินตามแผนการรักษาที่หมอบอก แล้วเราเดินไปด้วยกัน หมอกับทีมของหมอจะช่วยให้หนูผ่านไปได้เอง เลยกลับมาตั้งสติและตั้งเป้าหมายว่า จะต้องหายแล้วกลับมาใช้ชีวิตเหมือนที่เคยเป็นมาก่อนให้ได้”
ประทับใจในการรักษากับทีมสหสาขาวิชาชีพและความเอื้ออาทรของชาวบำรุงราษฎร์
คุณคนิตรารักษามะเร็งหลังโพรงจมูกด้วยการฉายแสงและให้ยาเคมีบำบัด และมะเร็งไทรอยด์รักษาด้วยการผ่าตัด คุณคนิตราเล่าประสบการณ์ในการรักษากับบำรุงราษฎร์ให้เราฟังว่า “อาจารย์ทุกท่านตั้งแต่อาจารย์อภิชาตที่เป็น head ในการรักษาหนูเพราะการรักษาของหนูใช้การฉายแสงเป็นหลัก แล้วก็มีอาจารย์เข็มชาติ เป็นแพทย์วินิจฉัยและอาจารย์กุลธิดา (มณีนิล) ที่ให้ยาเคมีบำบัด อาจารย์อภิชาติจะเป็นคนคุยกับหมอ ทุกท่านสรุปยังไง อาจารย์จะแจ้งหนูทราบว่าต้องทำยังไง หนูซึ้งใจที่อาจารย์ดีกับหนูมากๆ”
คุณคนิตราได้เล่าต่อว่า “อาจารย์อภิชาตเล่ากระบวนการรักษาให้หนูฟังทั้งหมดว่าต้องเจออะไรบ้างและเตรียมตัวให้หนูดีมาก อาจารย์รู้ว่าคนไข้ที่ฉายแสงบริเวณศีรษะและลำคอจะเจ็บคอมาก ทานอะไรทางปากไม่ได้ เลยให้หนูไปเจอกับอาจารย์ยุทธนา (ศตวรรษธำรง) เพื่อใส่สายอาหารทางหน้าท้อง และให้เริ่ม feed นมและโปรตีน หนูว่าหนูรอดมาได้เพราะสายอาหารทางหน้าท้องนี่แหล่ะ…ส่วนอาจารย์กุลธิดา น่ารักและอ่อนโยนกับหนูมาก อธิบายให้หนูฟังว่าหนูจะเจออะไรบ้างระหว่างที่ให้ยาไป ถามตลอดว่านอนหลับไหม มีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า ช่วงหลังๆหนูโทรมมากเพราะคลื่นไส้ อาเจียนตลอด อาจารย์ขอให้หนู admit และให้น้ำเกลือ เจอว่าซีดและค่าไตสูงเลยให้อาจารย์ทัตพงศ์ (จิตเอื้ออารีย์) และนักโภชนาการมาช่วยดูแล”
นอกจากนี้ คุณคนิตรายังประทับใจกับเจ้าหน้าที่ของบำรุงราษฎร์ทุกคน “พี่พยาบาลทุกแผนกทุกคนให้กำลังใจและดูแลหนูดีมากๆ อย่างที่ศูนย์ฮอไรซัน น้องพยาบาลสังเกตเห็นว่าหนูมีจุดคันบริเวณที่ให้ IV และสงสัยว่าหนูแพ้เข็มแทงเส้น เลยเปลี่ยนไปใช้อีกแบรนด์และหนูก็ไม่แพ้ นอกจากนี้ทุกคนยังสอดแทรกความรู้ในการดูแลตัวเองให้…ส่วนห้องฉายแสง พี่พยาบาลก็จะถามอาการและให้คำแนะนำตลอด พี่ที่เป็น technician ข้างในทุกคน รวมถึงเจ้านาย เพื่อนร่วมงานให้กำลังใจดีมาก ทุกคนช่วยให้หนูผ่านพ้นอะไรแย่ๆไปได้ อันนี้คือความเป็นบำรุงราษฎร์จริงๆ”
กลับมาใช้ชีวิตใหม่ที่เหมือนคนไม่เคยเป็นป่วยได้อีกครั้ง
คุณคนิตรากล่าวว่า “เมื่อก่อนเป็นคน work hard, play harder สุดทุกอย่าง ออกกำลังกายสุด เที่ยวสุด แต่ปัจจุบันใช้ชีวิตมีสมดุลมากขึ้น ทุกวันนี้ ตั้งแต่จบการรักษาครบ 8 เดือน หนูว่าหนูกลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับคนอื่น เขายังไม่กลับมาฟื้นตัวเท่าหนู หนูตั้งปณิธานตั้งแต่เริ่มรักษาตัวว่าจะทำประโยชน์ให้กับคนไข้มะเร็งให้ได้มากที่สุด การที่ได้แชร์เรื่องราวช่วยทำให้ทุกคนได้รู้ว่าบำรุงราษฎร์สามารถทำให้คนที่เป็นมะเร็งระยะที่ 3 ลุกลามไปถึงต่อมน้ำเหลืองแล้วกลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนไม่เคยป่วยได้ ”
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 24 ตุลาคม 2567