bih.button.backtotop.text

กำลังใจที่ส่งผ่านจากเด็กผู้หญิงตัวน้อยสู่การรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว

“พ่อต้องอยู่เพื่อหนู พ่อต้องหาย” เสียงผ่านสายโทรศัพท์จากเอธิโอเปีย ของเด็กผู้หญิงวัย 3 ขวบที่ส่งความห่วงใยมาให้กับพ่อของเธอ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และนั่นทำให้คุณ Ashebir Yimam มั่นใจยิ่งขึ้นกับการตัดสินใจมารักษาตัว ที่ศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็งฮอไรซัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

 
เริ่มจากในช่วงปี 2014 เป็นช่วงเวลาที่พลิกผัน ของคุณ Ashebir Yimam ที่ขณะนั้นเป็นฝ่าย Data Collector ของบริษัทแห่งหนึ่งในเอธิโอเปีย เขาเริ่มมีอาการเหนื่อยมากผิดปกติ จนไม่สามารถทำงานได้ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในท้องถิ่น “ตอนแรกไม่คิดเลยว่าเราจะเป็นอะไร เพราะร่างกายก็แข็งแรงดี ก็คิดว่าคงจะทำงานหนักเกินไป เลยเหนื่อย แต่เมื่อหมอตรวจอย่างละเอียดก็พบว่าเขาเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว” เขาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของความเจ็บป่วย

“พอตั้งสติได้ ก็กลับมาปรึกษากับทางครอบครัว และเพื่อนร่วมงานที่บริษัท ซึ่งตอนนั้นทางบริษัทก็ได้แนะนำโรงพยาบาลที่ดีและมีการรักษาที่มีชื่อเสียงมากมา 2 ประเทศ คือที่ประเทศอินเดียและประเทศไทย” คุณ Ashebir Yimam เล่าต่อถึงการตัดสินใจ ที่ค่อนข้างจะรวดเร็วในการรักษามะเร็งของเขาเอง ซึ่งใช้เวลาเพียงสัปดาห์เดียว ในการหาข้อมูลเพิ่มเติม และเลือกที่จะมาที่ศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็งฮอไรซัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์


เหตุผลที่เลือกมารักษาตัวที่ประเทศไทย

“ในช่วงที่ต้องตัดสินใจนั้น มีข้อมูลหลายอย่างที่แพทย์ที่บริษัทแนะนำ ทั้งเรื่องการรักษาที่ทันสมัยและดีกว่า เรื่องการดูแลแบบครบวงจร รวมทั้งความมีชื่อเสียงของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ทำให้ผมเดินทางมารักษาที่นี่” นั่นคือเหตุผลที่คุณ Ashebir Yimam เลือกที่จะมารักษาที่นี่ ซึ่งเขามาพร้อมกับพี่สาวแค่คนเดียว นั่นทำให้สภาพจิตใจตอนแรกของเขาดูจะกังวลอยู่บ้าง

 

ช่วงการรักษาที่เหมือนนั่งรถไฟเหาะ

การรักษาในช่วงแรกนั้น ผู้ป่วยหลายคนมักจะประสบปัญหาทางด้านจิตใจบ้าง อาจทำให้รู้สึกว่าอาการขึ้นๆลงๆ ดีบางวัน ไม่ดีบางวัน ซึ่งคุณ Ashebir Yimam ได้เล่าให้ฟังเช่นกัน เขาเล่าว่าเหมือนการได้นั่งรถไฟเหาะ ที่มีทั้งยิ้มแย้มและรู้สึกกลัวสลับกันไป เขาต้องทำคีโมทั้งหมด 6 Cycle และต้องทำทุกๆ 21 วัน ทุกอย่างก็ออกมาดี เขามีความหวังเต็มเปี่ยมมากยิ่งขึ้น  แต่ท้ายสุดนั้นเมื่อคุณหมอวิเชียร คุณหมอเจ้าของไข้ได้บอกเรื่องการรักษาแบบ Stem Cell หรือการปลูกถ่ายไขกระดูก จะทำให้เขาหายจากมะเร็งเม็ดเลือดขาวแน่นอน 100%

“คุณหมอวิเชียร บอกผมว่า การรักษาแบบ Stem Cell ทำให้ผมหายได้แน่นอน ผมดีใจมาก และผลการตรวจพี่สาวผม หมอบอกใช้ Stem Cell จากพี่สาวได้พอดี เธอทั้งพี่สาวและคนที่จะให้ชีวิตใหม่กับผมไปพร้อมๆกัน ผมดีใจมากๆ” เขาเล่าด้วยรอยยิ้ม
 

การรักษาด้วยเทคโนโลยีและครอบครัว

กว่า 8 เดือนที่ทำให้เขาต้องห่างไกลจากบ้านและครอบครัว ทำให้มีบางครั้งที่เขารู้สึกแย่ แต่ก็ได้รับแรงใจน้อยๆ จากลูกสาวของเขา ทำให้เขาก้าวต่อไปได้ “พ่อต้องอยู่เพื่อหนู พ่อต้องหาย พ่อกลับมาเร็วๆนะ หนูคิดถึงพ่อ” คำพูดผ่านโทรศัพท์ทางไกล ที่ทำให้คุณ Ashebir Yimam มีกำลังใจและสู้กับโรคนี้ในระหว่างที่รักษาตัวได้  

 
Patient-Ethiopia.jpg

“ถ้าถามว่ากังวลไหม ว่าโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวผมไหม  ผมก็เคยถามคุณหมอวิเชียรนะ แต่คุณหมอบอกว่าไม่เกี่ยวกัน  ผมก็เลยไม่กังวลเพราะผมมั่นในใจตัวคุณหมอมาก  แม้ว่าคุณป้าของผมจะเคยเป็นมะเร็งเต้านมเมื่อนานมากแล้วก็ตาม  และยิ่งได้เจอกับหมอที่เก่ง เทคโนโลยีการรักษาที่ดีด้วย เลยหมดห่วงไปเลยครับ”  เขาเล่าถึงกำลังใจที่ดีที่สุดของเขา
 

ความประทับใจที่อยากบอกต่อ

“ผมอยากขอบคุณทั้งคุณหมอ ที่ทำให้ผมได้กลับมาหาครอบครัว และใช้ชีวิตเพื่อลูกได้อีกยาวนาน และในช่วงการรักษาทั้งการทำคีโม และการรักษาแบบ Stem Cell ก็ต้องขอบคุณพยาบาลทุกคน ดูแล เอาใจใส่ดีมาตลอด ต้องขอขอบคุณอีกหลายๆคน ที่ผมก็ไม่รู้จักชื่อ รู้แต่ว่าเขาดูแลเราดีมาก ขอบคุณล่ามที่ทำให้การรักษาราบรื่น และเมื่อได้กลับไปที่เอธิโอเปีย ผมได้ถูกสัมภาษณ์เพื่อลงในนิตยสารและรายการโทรทัศน์ถึงเรื่องการเป็นผู้ที่มีชีวิตใหม่จากประเทศไทย เป็นผู้รอดพ้นจากมะเร็งเม็ดเลือดขาว แน่นอนว่าผมจะพูดถึงศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็งฮอไรซันแห่งนี้ด้วย ที่ได้ชีวิตใหม่กับผม” คุณ Ashebir Yimam กล่าวปิดท้าย
 
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

แก้ไขล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2565

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs