กระดูกสันหลังคดเป็นโรคที่หลายคนเป็นแต่ไม่รู้ตัว ซึ่งบางครั้งเกิดจากการที่พ่อแม่สังเกตเห็นว่ามีเอวคอด เอวคดหรือสังเกตเห็นบ่าที่ไม่เท่ากัน บางรายที่กระดูกสันหลังคดน้อยมากจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อได้ไปเอกเรย์เท่านั้นหรือได้ไปตรวจสุขภาพ ก็จะเห็นจากฟิลม์เอกเรย์โดยบังเอิญว่ามีกระดูกสันหลังคดภาพเอกเรย์ปอด
กระดูกสันหลังคดนั้นมีหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นกระดูกสันหลังคดตั้งแต่กำเนิด หรือกระดูกสันหลังคดตอนวัยรุ่นซึ่งแต่ละแบบล้วนมีการดำเนินโรคและการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้หมอจะพูดในส่วนของโรคกระดูกสันหลังคดที่เกิดจากในตอนวัยรุ่นซึ่งพบเจอได้บ่อยแต่ส่งผลกระทบกับชิวิตน้อยครับ
กระดูกสันหลังคด ภาษาอังกฤษใช้คำว่า scoliosis โรคชนิดนี้แบ่งย่อยได้เป็นหลายประเภท ส่วนใหญ่จะแบ่งตามอายุที่เกิดเช่นคดตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดตอนอายุมากแล้ว โดยส่วนใหญ่กระดูกสันหลังคดจะเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ ไม่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมใดๆครับ และส่วนมากจะมีมุมองศาการคดเล็กน้อย ซึ่งไม่มีอันตราย
เมื่อเราเข้าสู่วัยรุ่นและดูกสันหลังจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วไปพร้อมๆกับความสูงที่เพิ่มขึ้น ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่สามารถเกิดการคดของกระดูกสันหลังได้มากที่สุด ซึ่งเป็นวัยที่ควรจะต้องเฝ้าระวังหากกระดูกมีการคดมาก มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษา แต่หากกระดูกคดไม่มากก็สามารถที่จะใช้ชิวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไปเลยครับ ต่อไปหมอจะนำคำถามที่ผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกสันหลังคดถามบ่อยๆมาอธิบายกันครับ
1.“เป็นกระดูกสันหลังคด ทำงานอะไรได้บ้าง”
สามารถทำงานได้ทุกอย่างเหมือนคนปกติเลยครับ สามารถที่จะก้มหลัง แอ่นหลัง บิดหลัง ได้เหมือนคนทั่วไป แต่จะมีข้อพึงระวังเพราะบางครั้งคนที่มีกกระดูกสันหลังคดอาจพบเจอกับปัญหาการปวดหลังได้บ่อยกว่าคนทั่วไป เพราะฉะนั้นหมอแนะนำให้หมั่นออกกำลังกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อท้องหรือกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างเพื่อเพิ่มสมดุลให้กับร่างกายและลดการทำงานของกระดูกสันหลังครับ
2.“สันหลังคดจะมีโอกาสสูงขึ้นมั้ย”
มีส่วนสูงและโอกาสที่จะเจริญเติบโตเหมือนคนทั่วไปครับ แต่อย่างที่กล่าวไปตอนแรกนั่นคือ ควรที่จะต้องเฝ้าระวังมุมองศาความคดของกระดูกว่าเพิ่มขึ้นมากหรือไม่ หากเพิ่มขึ้นมากเกินเกณฑ์ที่กำหนดก็จะต้องพิจารณาการรักษาต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการใส่เสื้อเกราะหรือการผ่าตัดครับ
3.“เป็นกระดูกสันหลังคด ไม่ควรทำงานแบบไหน”
ไม่จำกัดชนิดงานครับ เพียงแต่ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงงานที่ต้องนั่งนานๆ หรือการก้มเยอะๆ และมีการยกของร่วมด้วย เพราะมีโอกาสเกิดการปวดหลังได้มากกว่าคนทั่วไป แต่ไม่ได้ทำให้มุมองศาการคดมีมากกว่าเดิมครับ
4.“เมื่อไรที่กระดูกจะไม่คดเพิ่มอีก”
โดยส่วนใหญ่กระดูกสันหลังจะหยุดคดพร้อมกับความสูงร่างกายที่ลดลง โดยส่วนมากแล้วจะหยุดเมื่ออายุ 20 ปี ซึ่งบางรายอาจเร็วกว่านั้น
5.“เป็นกระดูกสันหลังคดแล้วมีลูกได้ไหม”
สามารถมีลูกได้เหมือนคนปกติครับ ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับฮอร์โมน มดลูกหรืออวัยวะสืบพันธ์ อีกทั้งหากตั้งครรภ์แล้วน้ำหนักตัวเพิ่มจะไม่มีผลกับการคดของกระดูกสันหลังอีกด้วยครับ ส่วนรูปแบบการคลอด สามารถคลอดได้ทั้งแบบปกติและผ่าคลอดครับ
6.“เกี่ยวข้องทางพันธุกรรมไหม”
งานวิจัยปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่พบว่าเกี่ยวข้องทางพันธุกรรมครับ ฉะนั้นไม่ต้องกังวลหาก หากพ่อแม่เป็นกระดูกสันหลังคด ก็จะไม่ถ่ายทอดสู่ลูก
7.“ดูเหมือนไม่มีปัญหา แล้วส่วนใหญ่ปัญหาของกระดูกสันหลังคดอยู่ที่ไหนกันล่ะ”
ใช่แล้วครับ ที่หมอกล่าวไปทั้งหมด กระดูกสันหลังคดดูไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวลสำหรับผู้ชายครับ แต่จะมีปัญหาเมื่อเป็นกับผู้หญิง เพราะเกี่ยวข้องกับความสวยความงามและเรือนร่างที่สวยงามก็มักจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนาเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นอย่างแน่นอนครับ
ส่วนใหญ่จะพบว่าผู้ป่วยผู้หญิงที่มีภาวะกระดูกคดนั้นจะมีความมั่นใจในตัวเองต่ำกว่าปกติและมีความกังวลเรื่องรูปร่างมากกว่าทั่วไปเพราะฉะนั้นแล้วคนที่มีส่วนช่วยในการรักษาอย่างมากคือผู้ปกครองและพ่อแม่นั่นเองครับ เราควรให้กำลังใจและชี้ให้เห็นข้อดีด้านอื่นของตัวเขามากกว่ารูปร่างครับ
8.“กระดูกสันหลังคดหายได้ไหม?”
หากเป็นแล้ว หมอขอตอบว่า ไม่หายครับ และไม่มีทางที่จะทำให้กระดูกกลับมาตรงเหมือนเดิมแน่นอน แต่สำหรับคนที่เป็นก็ไม่ต้องกังวลครับ ส่วนใหญ่คนที่กระดูกสันหลังคดเล็กน้อยนั้น ไม่ทำให้เกิดอาการ หรือถ้ามีอาการก็เป็นอาการปวดเล็กน้อย ซึ่งถ้ารักษาร่วมกับการทำกายภาพ บริหารร่างกายให้ถูกต้องแล้ว ก็จะลดอาการปวดได้
9.“กระดูกสันหลังคด ออกกำลังกายอะไรได้บ้าง”
ออกได้เหมือนคนปกติทุกอย่างครับ กีฬาที่แนะนำจะเป็นการวิ่ง ว่ายน้ำ โยคะ พิลาทิส ส่วนกีฬาที่ต้องระวังในการเล่นให้มากได้แก่ เล่นเวท กีฬาเอ็กตรีม แบตมินตัน กอล์ฟ มวย แต่หากคุณสามารถกายภาพสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวได้แข็งแรงแล้ว คุณสามารถที่จะออกกำลังกายที่มีความเสี่ยงได้อย่างมีอิสระมากขึ้นครับ
10.การรักษากระดูกสันหลังคด
แบ่งออกเป็นการผ่าตัดและไม่ผ่าตัดครับ ถ้าพูดถึงวิธีไม่ผ่าตัดจะใช้วิธีการบริหารกล้ามเนื้อหลังและยืดหลังเพื่อป้องกันอาการปวดหลังซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากกระดูกคดครับ การเล่นพิลาทิสสามารถช่วยเรื่องนี้ได้ครับ
การทำโยคะที่เน้นการยืดหลังสามารถช่วยได้เช่นกัน การโหนบาร์ช่วยให้หลังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ส่วนการใส่เสื้อเกราะขึ้นอยู่กับดุลพินิจแพทย์ครับ เพราะการใส่เสื้อเกราะให้ได้ผลจะต้องใส่ทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน ถอดได้แค่ตอนอาบน้ำ
เพราะฉะนั้นคนไข้ส่วนใหญ่จึงไม่สามารถทนใส่ได้ทั้งวันครับ ส่วนการผ่าตัดดามกระดูกด้วยเหล็กจะทำก็ต่อเมื่อมุมองศาคดมากหรือมีการกดเบียดเส้นประสาทจนทำให้ขาอ่อนแรง ซึ่งก่อนการผ่าตัดจะต้องคุยเรื่องรายละเอียดและความเสี่ยงกับแพทย์ผู้ผ่าตัดให้เข้าใจดีอีกครั้งครับ เพราะการผ่าตัดเป็นการผ่าใหญ่ เสียเลือด พักฟื้นตัวนานครับ
หมอขอสรุปว่าหากครั้งนึงเราถูกวินิจฉัยว่าเป็นกระดูกสันหลังคดแล้วควรไปพบแพทย์เพื่อทำการเอ็กเรย์เพื่อตรวจดูมุมของการคดและควรติดตามการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังการคดเพิ่มของกระดูกสันหลัง เพื่อที่จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีครับ
เกี่ยวกับผู้เขียน
หมอแมท หรือ
นพ. ปวินท์ เกษมพิพัฒน์ชัย
ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อเเละศัลยกรรมกระดูกสันหลัง สถาบันกระดูกสันหลัง บำรุงราษฎร์
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 19 สิงหาคม 2567