หากผู้ป่วยถอดใจไม่ยอมรักษา ไม่ว่าแพทย์จะเก่งแค่ไหนก็ย่อมไร้ประโยชน์ ความหวัง กำลังใจ และจิตใจที่เข้มแข็ง เป็นปัจจัยสำคัญยิ่งต่อการประสบความสำเร็จในการรักษาของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ในวันมะเร็งโลกปีนี้ ศูนย์มะเร็งฮอไรซัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ขอประกาศเจตนารมย์อันแน่วแน่ในการรักษาและดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง และเป็นอีกหนึ่งพลังใจที่ช่วยหล่อเลี้ยงความหวังของผู้ป่วย ดังคำขวัญประจำวันมะเร็งโลกที่ว่า “I Am and I Will” เพราะตราบที่ใจยังเชื่อมั่นความหวังก็ยังคงอยู่
นอกจากเทคโนโลยีทางการแพทย์แล้ว กำลังใจก็เป็นอาวุธสำคัญในการต่อกรกับโรคมะเร็งเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นใจที่กล้าหาญพอจะเดินเข้าไปรับการตรวจร่างกาย หรือใจที่เข้มแข็งไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคในการรักษา ไปจนถึง ใจที่รักคนใกล้ชิดจนไม่รู้จักคำว่าท้อถอย ดังเช่นที่
พลาโต นักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยกรีกโบราณกล่าวไว้ว่า “หากเพิกเฉยต่อสุขภาพไม่จิตหรือกาย อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ไม่อาจเรียกว่าดูแลสุขภาพได้ดีได้ หากไม่ดูแลสุขภาพทั้งหมด” หรือเรียกได้ว่าสุขภาพนั้นเป็นผลลัพธ์ของทั้งการ “สุขกาย” และ “สบายใจ”
ใจที่ “กล้า” ไปรับการตรวจ
จากสถิติ ทั่วโลกมีผู้ป่วยมะเร็งถึง 18 ล้านคนต่อปี ถึงแม้ว่าตัวเลขเหล่านี้จะดูค่อนข้างน่ากลัว แต่กว่า
40% ของโรคมะเร็งที่มนุษย์เราต้องเผชิญนั้น เป็นมะเร็งที่เรารู้วิธีรักษาและป้องกันได้ ด้วยการดูแลสุขภาพ และการหมั่นตรวจเช็คร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ยกตัวอย่างเช่น
มะเร็งเต้านมซึ่งตรวจพบได้ง่ายโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมที่เรียกว่า
“แมมโมแกรม” นั้น หากตรวจพบในระยะต้นๆ มีอัตราการรอดชีวิตในระยะ 5 ปีที่สูงถึง 99-100% ทีเดียว
ใจที่ “เข้มแข็ง” ไม่ยอมแพ้ต่อโรคร้าย
หากผู้ป่วยถอดใจไม่ยอมรักษา แพทย์จะเก่งแค่ไหนก็ย่อมไร้ประโยชน์
บันไดขั้นแรกสู่การหายขาดจากโรคมะเร็งย่อมเป็นความเข้มแข็งในจิตใจของตัวผู้ป่วยเองซึ่งเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง เช่นเดียวกับ
Professor Tin May Lwin แห่ง University of Computer Studies เมืองย่างกุ้ง ผู้ต่อสู้กับมะเร็งเต้านมมากว่ายี่สิบปี
“จิตใจของเรานั้นสำคัญมากในกระบวนการรักษา ถ้าหากเราเชื่อว่าเราจะหาย เราก็จะหาย เชื่อฉันสิ ถ้าหากคุณคิดว่าไม่ไหว มันก็จะไม่ไหว ฉันเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ถึงแม้ว่าในเวลานั้นฉันจะทรมานจากอาการทางหัวใจและโรคเบาหวานก็ตาม ฉันไม่ยอมให้โรคเหล่านั้นมาเอาความสุขของฉันไป”
ความเข้มแข้งในจิตใจนี้เองที่ทำให้ผู้ป่วยมีแรงสู้ แม้มะเร็งหวนกลับมา หรือเกิดกับคนในครอบครัวก็ตาม เช่นเดียวกับคุณ
Srey Ly นักธุรกิจสาวชาวกัมพูชาผู้เอาชนะมะเร็งหลังโพรงจมูกได้สำเร็จ และเป็นแรงใจให้น้องชายที่ต้องเผชิญมะเร็งชนิดเดียวกัน
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้ ทำได้แค่สู้ให้มันผ่านไป และเดินหน้าต่อไป ถ้าหากลูกของฉันต้องมาเจอมะเร็งเหมือนกัน ฉันก็จะทำทุกทางให้เขาหาย”
ใจที่ “รัก” จนไม่รู้จักท้อ
ในภาษาไทยมีคำว่า “ตรอมใจ” ที่ใช้เมื่อความทุกข์ในใจนั้นหนักจนส่งผลต่อร่างกาย เชื่อกันว่าการตรอมใจนี้เองที่ทำให้โรคลุกลามเร็วกว่าที่ควร ในผู้ป่วยหลายคน และในทางกลับกัน
ผู้ป่วยที่มีความคิดบวกหรือพลังใจเต็มเปี่ยมก็อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวกว่าที่แพทย์คาดการณ์ไว้เสียอีก สำหรับบางคนแล้วที่มาของพลังใจนั้นก็คือคนในครอบครัว ดังเช่นที่คุณ
Razia Nasreen Sultana สุภาพสตรีชาวบังคลาเทศวัย 62 ปีผู้เอาชนะโรคมะเร็งเต้านมได้ กล่าวว่า
“ถึงแม้ว่าการทำคีโมนั้นจะเต็มไปด้วยความทรมานที่มากับอาการปวดหัว คลื่นไส้ ทานอาหารไม่ได้ มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้ฉันทนได้นั่นก็คือการที่จะได้เจอลูกสาวและหลานชาย พวกเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของฉัน พวกเขาเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันสามารถผ่านความทรมานของคีโมมาได้”
ไม่เพียงแต่ความรักที่มีให้บุคคลภายนอกเท่านั้นแต่ความรักในพรสวรรค์ที่ตนมีก็เป็นแรงผลักดันให้คนเราเอาชนะมะเร็งร้ายได้เช่นกัน ดังเช่นในกรณีของคุณ
Nguyen Thi Man นักอสังหาริมทรัพย์สาวชาวเวียดนาม วัย 53 ปี ผู้รักเสียงเพลงเป็นชีวิตจิตใจ “
ดิฉันเคยได้ยินมาว่าหากเจาะที่ก้อนเนื้อมะเร็งนั้นแล้วมันจะลุกลามไปทั่วร่างกาย จึงยังไม่ตัดสินใจรักษาในทันทีที่ตรวจพบ แต่เมื่อคุณแม่ของดิฉันเองก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ดิฉันก็ตัดสินใจว่าต้องรีบรักษาเพราะไม่อาจให้ครอบครัวต้องเผชิญกับการสูญเสียซ้ำสอง และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำใจไม่ได้เลยก็คือการที่ดิฉันจะไม่สามารถร้องเพลงได้อีก เพราะการร้องเพลงคือสิ่งที่ฉันรักที่สุดในชีวิต ดิฉันได้รับรางวัลจากเวทีการประกวดร้องเพลงต่างๆ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ขึ้นเวที”
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าสุขภาพกายและใจนั้นส่งผลต่อกันและกันเสมอ ยิ่งเมื่อร่างกายต้องเผชิญกับโรคร้าย จิตใจก็ยิ่งต้องมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อพยุงตนให้ฝ่าฟันพายุไปได้
ในวันมะเร็งโลกปีนี้ ศูนย์มะเร็งฮอไรซัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ขอประกาศเจตนารมย์อันแน่วแน่ ในการรักษาและดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง และเป็นอีกหนึ่งพลังใจที่ช่วยหล่อเลี้ยงความหวังของผู้ป่วย ดังคำขวัญประจำวันมะเร็งโลกที่ว่า “I Am and I Will” เพราะตราบที่ใจยังเชื่อมั่นความหวังก็ยังคงอยู่
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2565