หลายท่านอาจจะทราบแล้วว่า
โรคลมชักนั้นเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย และปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคลมชักในแต่ละช่วงอายุนั้นมีความแตกต่างกัน แต่จะแตกต่างกันอย่างไร อายุมากจะเสี่ยงมากขึ้นไหม
โรคลมชักที่เกิดจากกรรมพันธุ์หรือหาสาเหตุไม่ได้อาจป้องกันไม่ได้ แต่คนทั่วไปสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดอาการชักได้โดยป้องกันไม่ให้ศีรษะมีการกระทบกระเทือนรุนแรง หรือรักษาพยาธิสภาพในสมองที่เกิดขึ้นให้เร็วและมีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับสมองให้น้อยที่สุดสำหรับเด็กที่เป็นโรคลมชัก ผู้ปกครองควรดูแลเด็กให้รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ปีนที่สูง ว่ายน้ำคนเดียวหรือขี่จักรยานออกนอกถนน
นอกจากนี้ผู้ปกครองควรเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลผู้ป่วยโรคลมชักเบื้องต้นดังต่อไปนี้
- ให้เด็กอยู่ในท่าที่ปลอดภัยจากการชัก คือให้นอนราบกับพื้น ตะแคงศีรษะไปทางด้านข้าง
- ห้ามนำสิ่งของใดๆเข้าไปในปากหรือพยายามงัดปากเพื่อป้องกันการกัดลิ้น เพราะเด็กจะยิ่งดิ้นสู้ ฟันอาจหักหรือสิ่งของอาจตกเข้าไปในคอจนเป็นอันตรายและทำให้เด็กหายใจไม่ออกได้
- สังเกตอาการของเด็กและจับเวลาที่เกิดอาการชักไว้ หากเด็กหยุดชักเองภายใน 5 นาที อาจยังไม่ต้องมาพบแพทย์ทันที รอจนวันรุ่งขึ้นได้ แต่หากเด็กชักนานเกิน 5 นาทีหรือมีการชักซ้ำเกินกว่า 1 ครั้งภายในวันเดียวกัน ให้ปฐมพยาบาลเด็กสังเกตอาการของเด็กและจับเวลาที่เกิดอาการชักไว้ หากเด็กหยุดชักเองภายใน 5 นาที อาจยังไม่ต้องมาพบแพทย์ทันที รอจนวันรุ่งขึ้นได้ แต่หากเด็กชักนานเกิน 5 นาทีหรือมีการชักซ้ำเกินกว่า 1 ครั้งภายในวันเดียวกัน ให้ปฐมพยาบาลเด็กอย่างถูกต้องและพาเด็กไปโรงพยาบาลที่ใกล้บ้านมากที่สุด
วิดีโอนี้มีข้อมูลรายละเอียดที่น่าสนใจของเรื่องนี้ให้ติดตามกันค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2567