รู้หรือไม่? เชื้อไวรัส RSV ไม่ใช่แค่หวัดธรรมดา สำหรับผู้สูงวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หัวใจ หรือปอดเรื้อรัง RSV อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดอักเสบหรือหัวใจล้มเหลว ปัจจุบันยังไม่มียารักษาเฉพาะ แต่สามารถป้องกันได้ด้วย “วัคซีน RSV”

ไวรัส RSV คืออะไร?

RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ ทั้งส่วนบน และส่วนล่าง เชื้อนี้ติดต่อผ่านการหายใจเอาละอองฝอยที่เกิดจากการไอ อาการคล้ายไข้หวัด เช่น ไอ ไข้ น้ำมูก ผู้ป่วยบางราย โดยเฉพาะผู้สูงวัย หากเกิดการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง อาจจะมีอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง หอบเหนื่อย หายใจลำบาก หรือออกซิเจนในเลือดต่ำ

ใครบ้างเสี่ยงติดไวรัส RSV?

กลุ่มเสี่ยงสำคัญ ได้แก่

• ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด, ปอดอุดกั้นเรื้อรัง, โรคหัวใจ, เบาหวาน, โรคไต, โรคตับ
• ผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ

อันตรายของ RSV ในผู้สูงอายุ

• ภาวะปอดอักเสบ พบได้สูงถึง 78%
• หัวใจล้มเหลว พบได้ 17%

ข้อมูลในไทยพบว่าอัตราเสียชีวิตในเด็กเพียง 0.12% แต่ในผู้สูงอายุสูงถึง 15.9% และทั่วโลกมีผู้ป่วยสูงวัยติด RSV ประมาณ 470,000 รายต่อปี ที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล

วิธีรักษาไวรัส RSV

ปัจจุบันยังไม่มียารักษาเฉพาะ ส่วนใหญ่รักษาตามอาการ เช่น

• ให้ยาลดไข้ แก้ไอ
• พ่นยาขยายหลอดลม
• ให้ออกซิเจน
• ให้ยาปฏิชีวนะหากมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน

การป้องกันไวรัส RSV ในผู้สูงอายุ

• ฉีดวัคซีน RSV แนะนำในผู้สูงอายุ 75 ปีขึ้นไป หรืออายุ 60-74 ปีที่มีโรคประจำตัว
• หมั่นล้างมือ สวมหน้ากาก
• เว้นระยะห่าง เลี่ยงพื้นที่แออัด
• ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

วัคซีน RSV ปลอดภัย อาการข้างเคียงพบได้น้อย เช่น ปวด บวม บริเวณที่ฉีด ไข้ต่ำ ๆ และหายได้ภายใน 2-3 วัน