เมื่อพูดถึงโรคร้ายที่เป็นอันตรายถึงชีวิต คนส่วนใหญ่มักนึกถึงโรคมะเร็งและโรคหัวใจเป็นลำดับแรกๆ แต่จากสถิติในประเทศไทยพบว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการเสียชีวิตก่อนวันอันควรสูงเป็นอันดับหนึ่งในเพศหญิงและสูงเป็นอันดับสองในเพศชาย รวมถึงทำให้มีอัตราตายมากกว่าโรคหัวใจขาดเลือดและโรคเบาหวานถึง 2 เท่าตัว
โรคหลอดเลือดสมองคืออะไร
โรคที่ระบบประสาทเกิดภาวะบกพร่องเฉพาะที่อย่างเฉียบพลันจากสมองขาดเลือด อาการของโรคอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของสมองที่ถูกทำลาย
โรคหลอดเลือดสมองเกิดขึ้นได้อย่างไร
โรคหลอดเลือดสมองเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- เส้นเลือดแตกทำให้เลือดออกในสมอง
- เส้นเลือดอุดตันโดยลิ่มเลือด ทำให้สมองขาดเลือด
- เส้นเลือดตีบตัน ทำให้สมองขาดเลือด
- ปัจจัยเสี่ยง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคไขมันสูง การสูบบุหรี่
- ปัจจัยอื่นๆที่ทำให้สมองขาดเลือด เช่น การใช้สารเสพติด การบาดเจ็บของเส้นเลือดแดงใหญ่บริเวณลำคอ โรคมะเร็งบางชนิด โรคติดเชื้อในสมองบางชนิดและโรคทางพันธุกรรมเกี่ยวกับเลือดแข็งตัวง่ายหรือหลอดเลือดผิดปกติ
สังเกตอาการได้อย่างไร
โรคหลอดเลือดสมองมักจะมีอาการเฉียบพลันขึ้นมาทันที สังเกตได้ง่ายๆด้วยการทดสอบอาการที่เรียกว่าย่อๆว่า FAST
- F = Face ให้ยิงฟันหรือยิ้ม สังเกตว่าปากเบี้ยว มุมปากตกหรือไม่
- A = Arms ให้ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นนาน 10 วินาที พบว่าแขนข้างใดข้างหนึ่งตกยกไม่ขึ้นหรือไม่
- S = Speech ให้พูดตามและสังเกตว่าพูดไม่ชัด พูดไม่รู้เรื่องหรือไม่พูดหรือไม่
- T = Time ให้รีบมาโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตหรือเสียชีวิต
วินิจฉัยได้อย่างไร
- ตรวจพบอาการแสดงที่เข้าได้กับโรคหลอดเลือดสมอง
- เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT scan)
- การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (Magnetic resonance imaging)
- การตรวจหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดใหญ่ที่คอ
- CT angiography (เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองด้วยการฉีดสารทึบรังสี)
- MR angiography (การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมองด้วยการฉีดสารทึบรังสี)
- Carotid duplex ultrasound (การตรวจการตรวจอัลตร้าซาวด์หลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ)
รักษาได้กี่วิธี
การรักษาขึ้นอยู่กับความผิดปกติ เช่น ความผิดปกติเกิดจากหลอดเลือดตีบตันหรือเกิดจากเลือดออกในสมองเนื่องจากการที่มีหลอดเลือดฉีกขาดหรือหลอดเลือดแตก โดยมีวิธีรักษาดังนี้
- การรักษาด้วยยาสลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำ
- การใส่สายสวนหลอดเลือดและใช้อุปกรณ์ในการลากหรือดูดลิ่มเลือดที่อุดตันออก
- การให้ยาต้านเกร็ดเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือด
- การให้สารน้ำทางน้ำเกลือ
- การควบคุมความดันโลหิต น้ำตาล และไขมันในเลือด
- การทำกายภาพบำบัดฟื้นฟู
ป้องกันได้หรือไม่
ทุกคนสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้โดย
- ตรวจเช็คสุขภาพประจำปี
- ควรปรึกษาแพทย์หากมีความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูงและโรคหัวใจ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน เค็มและมัน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- งดสูบบุหรี่
- เรียนรู้วิธีจัดการความเครียด
ศูนย์โรคระบบประสาท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีบริการตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง เรามีทีมแพทย์ที่มีความชำนาญและประสบการณ์สูง พร้อมให้บริการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอย่างครอบคลุม
เรียบเรียงโดย
นพ. พงศธร เรืองรองหิรัญญา
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 24 มกราคม 2567