โรคบาดทะยัก โรคคอตีบ และโรคไอกรน คือ
- โรคบาดทะยัก (Tetanus, T) เกิดจากพิษของเชื้อบาดทะยักซึ่งมีอยู่ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม มักเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล ทำให้มีอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อ รวมไปถึงการกลืนลำบาก หายใจลำบาก และสามารถนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ป่วยได้
- โรคคอตีบ (Diphtheria, D) ก่อให้เกิดอาการหายใจลำบาก หัวใจล้มเหลว อัมพาต หรือเสียชีวิต เชื้อสามารถติดต่อได้จากทางเดินหายใจ
- โรคไอกรน (Pertussis, aP) ก่อให้เกิดอาการไอที่รุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งทำให้ยากต่อการหายใจ รับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำ โรคไอกรนจะร้ายแรงมากโดยเฉพาะในทารกและเด็กเล็ก เพราะทำให้เกิดอาการปอดบวม ชักกระตุก สมองพิการ หรือเสียชีวิต ในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ โรคไอกรนอาจทำให้น้ำหนักลด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หมดสติ และกระดูกซี่โครงหักจากการไออย่างรุนแรง เชื้อสามารถติดต่อได้จากทางเดินหายใจ
ทั้งนี้โรคบาดทะยัก คอตีบ และไอกรน สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน โดยวัคซีนโรคบาดทะยัก โรคคอตีบ และโรคไอกรน สูตรสำหรับเด็กโตหรือผู้ใหญ่ (Tdap) เป็นวัคซีนที่มีการลดปริมาณของวัคซีนคอตีบ เพื่อลดผลข้างเคียง
ใครควรได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน และเมื่อไร
เด็กอายุ 7 ปีขึ้นไป วัยรุ่นและผู้ใหญ่ โดยปกติการให้วัคซีน Tdap จะฉีดครั้งละ 0.5 มิลลิลิตร ฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณต้นแขน ตามรายละเอียดดังตาราง
วัยรุ่น |
แนะนำให้ฉีด Tdap 1 ครั้ง ในช่วงอายุ 11 หรือ 12 ปี |
หญิงตั้งครรภ์ |
ควรฉีด Tdap ทุกครั้งที่มีการตั้งครรภ์ แนะนำให้ฉีดในช่วงต้นของอายุครรภ์ในไตรมาสที่ 3 หรือประมาณสัปดาห์ที่ 28-40 เพื่อช่วยป้องกันทารกจากโรคไอกรน และทารกมีความเสี่ยงสูงสุดในการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงถึงชีวิตจากโรคไอกรน |
ผู้ใหญ่ |
ผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน Tdap มาก่อนควรได้รับวัคซีนนี้ นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ควรฉีดเข็มกระตุ้นของวัคซีน Tdap หรือ tetanus-diphtheria (Td) (วัคซีนสำหรับป้องกันบาดทะยักและโรคคอตีบ แต่ไม่ใช่โรค
ไอกรน) ทุกๆ 10 ปี หรือ 5 ปีหลังเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง มีแผลติดเชื้อหรือแผลไฟไหม้ |
*วัคซีน Tdap สามารถให้ร่วมกับวัคซีนชนิดอื่นได้ในครั้งเดียวกัน*
หากมีอาการดังต่อไปนี้ แนะนำให้แจ้งบุคลากรทางการแพทย์ทราบ ก่อนได้รับวัคซีน
- เคยได้รับ Tdap แล้วมีอาการแพ้อย่างรุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต หรือแพ้ส่วนผสมในวัคซีน
- เคยมีอาการโคม่า ระดับความรู้สึกตัวลดลง หรือชักเป็นระยะเวลานานในระยะ 7 วันหลังจากได้รับวัคซีนที่เกี่ยวข้องกับโรคไอกรน (DTP, DTaP หรือ Tdap)
- ผู้ป่วยที่มีภาวะชักหรือความผิดปกติของระบบประสาท
- มีโรคกิลเลน-บาร์เร่ซินโดรม (Guillain-Barré Syndrome: GBS)
- เคยมีอาการเจ็บปวดรุนแรงหรือบวมหลังจากได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยักหรือคอตีบ
- ในบางกรณี บุคลากรทางการแพทย์อาจพิจารณาเลื่อนการฉีดวัคซีน Tdap ออกไป บุคคลที่มีอาการป่วยเล็กน้อย เช่น ไข้หวัด สามารถฉีดวัคซีนได้ บุคคลที่มีอาการป่วยปานกลางหรือป่วยหนักควรรอให้หายป่วยก่อนที่จะฉีดวัคซีน Tdap
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังรับวัคซีนรวมป้องกันโรคบาดทะยัก คอตีบ และไอกรน
อาการไม่พึงประสงค์ที่พบทั่วไปและไม่รุนแรง |
- ไข้ บวม แดง คัน หรือเจ็บบริเวณที่ฉีด
- ปวดศีรษะ รู้สึกเหนื่อยล้า
- อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว
- คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง
|
อาการไม่พึงประสงค์ปานกลาง-รุนแรง (หากสังเกตพบให้รีบปรึกษาแพทย์) |
- ชักกระตุก ไข้สูงมากกว่า 40.5 องศาเซลเซียส
- ชัก ไม่รู้สึกตัว
- อาการแพ้วัคซีนที่รุนแรง เช่น หายใจลำบาก เสียงแหบ มีเสียงวี้ดเวลาหายใจ หอบ ตัวซีด อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ หรือหัวใจเต้นเร็ว
|
การดูแลรักษาอาการไม่พึงประสงค์ที่พบทั่วไปและไม่รุนแรง
- หากมีไข้: รับประทานยาลดไข้ในขนาดที่เหมาะสม
- หากปวด บวม บริเวณที่ฉีดยา: ประคบด้วยผ้าเย็น
อันตรกิริยาระหว่างยา (ผลต่อยาอื่น)
หากท่านมียาที่ใช้ประจำ แนะนำปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนได้รับวัคซีน
เอกสารอ้างอิง
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 03 มีนาคม 2568