ตราบใดที่ยังไม่มีการค้นพบวัคซีนหรือยารักษาโควิด-19 ทุกคนควรปรับตัวและให้ความร่วมมือในการใช้ชีวิต new normal หรือความปกติในรูปแบบใหม่หลังคลายล็อกดาวน์โดยไม่ให้การ์ดตก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคอีกระลอก เราคงไม่อยากเผชิญเหตุการณ์อย่างบางประเทศ เช่น เกาหลีหรือสิงคโปร์ที่โรคกลับมาแพร่ระบาดรอบที่สองหลังจากรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์
ความปกติในรูปแบบใหม่จะเป็นอย่างไร ทำให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ทำอย่างไรจึงจะใช้ชีวิตนอกบ้านได้อย่างปลอดภัยจากโรค ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยสาธารณะ การไปห้างสรรพสินค้าหรือการไปโรงพยาบาล เรามีคำแนะนำวิธีป้องกันตัวจากการติดเชื้อและคาดการณ์แนวโน้มในการดำเนินชีวิตที่จะเปลี่ยนไป
ไปช็อปปิ้งที่ศูนย์การค้าอย่างไรจึงปลอดภัย
การระบาดของโรคจะทำให้ศูนย์การค้ามีมาตรการในการวางระบบฆ่าเชื้อโรคภายในตัวอาคารอย่างเข้มงวดมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าตัวอาคารและจัดวางเจลแอลกอฮอล์สำหรับให้ลูกค้าล้างมือตามจุดต่างๆทั่วห้าง รวมถึงนโยบายรักษาระยะห่างด้วยการจำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ แนะนำให้ปฏิบัติตัวดังนี้เมื่อต้องไปที่ศูนย์การค้า
- วางแผนและจดรายการของที่ต้องซื้อไว้ล่วงหน้า เพื่อใช้เวลาในห้างให้สั้นที่สุด
- งดพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆตามห้างสรรพสินค้า
- เลือกไปศูนย์การค้าที่มีนโยบายป้องกันโรคที่เข้มงวด เช่น พนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัย มีการวัดอุณหภูมิร่างกายลูกค้าทุกคน อาหารทุกอย่างมีการห่อหุ้มป้องกันเชื้อโรคอย่างดี มีการทำความสะอาดรถเข็นทุกครั้งหลังใช้ พนักงานรักษาระยะห่างจากลูกค้าและระหว่างกันและกัน มีพนักงานกดลิฟต์ให้ เป็นต้น
- ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดจับสิ่งของเพียงข้างเดียวและหลีกเลี่ยงที่จะใช้มือข้างนั้นสัมผัสบริเวณใบหน้า คนส่วนใหญ่มักเผลอสัมผัสใบหน้าด้วยมือข้างที่ถนัดมากกว่า
- หลีกเลี่ยงการลองเสื้อผ้าและเครื่องสำอางที่อาจมีคนอื่นลองมาก่อนหน้านี้
- ชำระเงินแบบไร้การสัมผัส (Contactless card) หากใช้เงินสดให้พยายามจ่ายพอดีเพื่อไม่ต้องรับเงินทอน
กินอาหารที่ร้านอาหารได้ไหม
หากอยากเปลี่ยนบรรยากาศกินข้าวนอกบ้านบ้างบางครั้งบางคราว แนะนำให้ปฏิบัติตัวดังนี้
- เลือกร้านอาหารที่จัดโต๊ะแบบรักษาระยะห่างและจำกัดจำนวนคนในร้าน วัดอุณหภูมิลูกค้าก่อนเข้าร้าน รวมถึงพนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัย เมนูที่ใช้แล้วทิ้งหรือทำความสะอาดทันทีหลังลูกค้าสัมผัส
- เลือกร้านอาหารที่มีลักษณะพื้นที่เปิดหรือร้านอาหารที่เปิดเครื่องใช้ปรับอากาศและมีพัดลมระบายอากาศ
- ไม่ใช้อุปกรณ์ เช่น ช้อน ส้อมที่จัดวางไว้บนโต๊ะ รวมถึงไม่กินเครื่องปรุงที่วางไว้บนโต๊ะ ให้ขอเครื่องปรุงชนิดซองแทน
- เลือกร้านอาหารที่มั่นใจในความสะอาด อาหารปรุงสุกใหม่ รวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารการกินที่ไม่ได้ผ่านความร้อน เช่น ส้มตำ สลัดและอาหารดิบ
ควรดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเดินทางโดยใช้ขนส่งสาธารณะ
- สวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง พกสเปรย์หรือเจลแอลกอฮอล์เพื่อล้างมือเมื่อต้องสัมผัสสิ่งต่างๆ เช่น ราวจับ
- เมื่อต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้าหรือรถใต้ดิน ให้พยายามรักษาระยะนั่งหรือระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1 เมตร รวมถึงในเวลาที่ยืนต่อคิวเพื่อซื้อตั๋วและบนชานชาลา หากเป็นไปไดให้หลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วน
- หลีกเลี่ยงการใช้ลิฟต์โดยสารโดยไม่จำเป็น
- สำหรับการเดินทางโดยเครื่องบิน ในอนาคตสายการบินอาจร้องขอให้ผู้โดยสารมีเอกสารใบรับรองแพทย์ก่อนขึ้นเครื่อง อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรเดินทางหากรู้สึกไม่สบายและควรสวมหน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลา รวมถึงพกเจลแอลกอฮอลล์และพกแผ่นเปียกฆ่าเชื้อโรคแบบพกพาเพื่อทำความสะอาดบริเวณที่นั่งและบริเวณที่ต้องสัมผัสทั้งหมด
ป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อเมื่อไปสวนสาธารณะได้อย่างไร
การไปเดินเล่นหรือวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะหรือการนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจช่วยลดความเครียด ทำให้ร่างกายแข็งแรงและเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ อย่างไรก็ตามคุณควรปฏิบัติตัวดังนี้
- รักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร หากวิ่งควรรักษาระยะห่าง 10 เมตรเพราะเวลาวิ่งเหนื่อย จะหายใจแรงและรับละอองฝอยน้ำลายจากกันและกันได้
- ไม่ควรสวมหน้ากากอนามัยขณะวิ่งเพราะอาจทำให้ออกซิเจนไม่เพียงพอ แนะนำให้เดินออกกำลังกาย 30 นาทีแทนการวิ่งและสวมหน้ากากผ้าไว้ตลอดเวลา
- ไม่รวมกลุ่มกับผู้อื่นและเวลาเดินออกกำลังกายไม่ควรพูดคุยใกล้ชิดกับผู้อื่น
- ไม่จับต้องสิ่งของในสวนสาธารณะ เช่น เครื่องเล่นและอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ
แล้วไปร้านทำผมหรือร้านทำเล็บปลอดภัยไหม
ไวรัสโคโรน่าสามารถอยู่บนพลาสติกและโลหะได้นานหลายวัน ดังนั้นการไปร้านตัดผมหรือร้านทำเล็บจึงมีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นเมื่อไปใช้บริการที่ร้านทำผมหรือร้านทำเล็บ ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำดังนี้
- มั่นใจว่าร้านทำผมหรือร้านทำเล็บมีการทำความสะอาดร้าน ที่นั่ง รวมถึงอุปกรณ์ทุกชิ้น ทุกครั้งหลังจากใช้อย่างได้มาตรฐาน ร้านมีการวัดอุณหภูมิร่างกายของลูกค้าก่อนเข้าร้าน มีการจัดพื้นที่ให้มีระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตรและจำกัดจำนวนลูกค้าด้วยการให้จองล่วงหน้าก่อนใช้บริการ
- พนักงานสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือและ/หรือสวมถุงมือก่อนสัมผัสลูกค้า
- สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในร้านและจำกัดการพูดคุยกับพนักงานให้น้อยที่สุด
ไปโรงพยาบาลปลอดภัยจริงหรือ
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ได้เตรียมการและทบทวนมาตรการการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่กระจายของโรคตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคซาร์และโรคเมอร์ส ดังนั้นเราจึงมีวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best practice) ในการสกัดกั้นการแพร่กระจายของโรค ถึงแม้รัฐบาลจะประกาศคลายล็อคดาวน์ เรายังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดนั้นไว้ เช่น
- มีการตรวจวัดอุณหภูมิบุคลากรและผู้มาใช้บริการทุกรายในทุกทางเข้าของอาคาร
- จัดพื้นที่บริการให้มีการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด
- จัดตั้งคลีนิคพิเศษสำหรับผู้ที่มีอาการหวัดโดยเฉพาะเพื่อแยกผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงออกจากผู้ป่วยกลุ่มไม่เสี่ยงอย่างชัดเจน
- ใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อและยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อภายในโรงพยาบาลขั้นสูงสุด
- ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาคุณภาพสูงตามมาตรฐานระดับสากลของสุขอนามัยในสถานที่ทำงาน (workplace hygiene) รวมถึงใช้หุ่นยนต์ทำความสะอาดด้วยแสงยูวี เพื่อฆ่าเชื้อโรคบริเวณที่แสงสัมผัสอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทิ้งสารปรอทตกค้าง
- สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว และไม่พร้อมที่จะมาใช้บริการที่โรงพยาบาล เรามีบริการโทรปรึกษาแพทย์ผ่านโทรเวชกรรม และบริการ 60 วินาทีสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีน เจาะเลือดและรับยา
สำหรับผู้มาใช้บริการแนะนำให้ปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อดังนี้
- สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ภายในโรงพยาบาลและหลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้ากากและใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณปาก หูและตา
- รักษาระยะห่างทางสังคมจากผู้ใช้บริการคนอื่นอย่างเคร่งครัด
- ทำความสะอาดมือให้บ่อยครั้ง
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2565