โรคโควิด-19 เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัสซาร์สโควี-2 (SARS-CoV-2) ซึ่งติดต่อจากการสัมผัสกับละอองฝอยของน้ำลาย เสมหะ น้ำมูกของผู้ติดเชื้อ ระยะเวลาตั้งแต่ได้รับเชื้อจนถึงเริ่มมีอาการป่วยประมาณ 2-14 วัน อาการของโรคมีได้ตั้งแต่ไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ มีน้ำมูก เจ็บคอ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส และอาจรุนแรงจนปอดอักเสบและอาจเสียชีวิตได้
วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีหลากหลายชนิดขึ้นกับเทคโนโลยีในการผลิตวัคซีน วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่เป็นชนิด
เอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ผลิตโดยการใช้สารพันธุกรรมสังเคราะห์ที่จำลองมาจากสารพันธุกรรมของไวรัส เมื่อฉีดกระตุ้นเข้าไปในร่างกายจะไปกำกับให้เซลล์ผลิตสารโปรตีนสไปค์ เพื่อกระตุ้นทำให้เซลล์ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสร้างภูมิต่อต้านเชื้อซาร์สโควี-2 โดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ร่างกายมนุษย์ ปัจจุบันในประเทศไทยมี 2 ชนิดคือ
- วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19: โคเมอร์เนตี COMIRNATYTM (Pfizer-BioNTech)
- วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19: SPIKEVAXTM (Moderna)
ข้อมูลประสิทธิภาพของวัคซีนเป็นอย่างไร
วัคซีน
|
ข้อมูลผลการศึกษาด้านประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันโรคโควิด-19
|
COMIRNATYTM (Pfizer-BioNTech)
|
· ประสิทธิภาพโดยรวมในการป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยละ 93 ถึง 95
· ป้องกันโรคที่มีอาการรุนแรงร้อยละ 95 ถึง 100
|
SPIKEVAXTM (Moderna)
|
· ประสิทธิภาพโดยรวมในการป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยละ 82 ถึง 94
|
** ประสิทธิภาพของวัคซีนอาจมีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศและช่วงการระบาดที่ทำการศึกษา**
ใครควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
บุคคลทั่วไป โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค และผู้ที่มีโอกาสเป็นโรครุนแรง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภาวะอ้วน โรคปอด โรคหัวใจ เบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง เป็นต้น
วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA มีข้อบ่งใช้ในกลุ่มบุคคลที่แตกต่างกันดังนี้
กลุ่มอายุ
|
ชนิดของวัคซีน
|
เด็กที่มีอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี
|
COMIRNATYTM (Pfizer-BioNTech) ขนาด 3 ไมโครกรัม/โดส
|
เด็กที่มีอายุ 5 ถึง 11 ปี
สำหรับ SPIKEVAXTM (Moderna)
แนะนำในเด็กที่มีอายุ 6 ถึง 11 ปี
|
COMIRNATYTM (Pfizer-BioNTech) ขนาด 10 ไมโครกรัม/โดส
SPIKEVAXTM (Moderna) ขนาด 50 ไมโครกรัม/โดส
|
บุคคลที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
|
COMIRNATYTM (Pfizer-BioNTech) ขนาด 30 ไมโครกรัม/โดส
SPIKEVAXTM (Moderna) ขนาด 100 ไมโครกรัม/โดส
|
หญิงให้นมบุตร หญิงตั้งครรภ์ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาที่แน่ชัดในกลุ่มนี้ แต่อย่างไรก็ตาม หญิงให้นมบุตรและหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ และควรได้รับคำปรึกษาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนโดยละเอียดก่อนการตัดสินใจ
วัคซีนมีวิธีการฉีดอย่างไร
ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ตามกำหนดการฉีดดังตาราง
วัคซีน
|
ขนาดวัคซีนและวิธีการใช้วัคซีนสำหรับวัคซีนชุดแรก
|
ขนาดต่อครั้ง
|
จำนวนเข็มที่แนะนำ
|
ระยะห่างระหว่างเข็ม 1 กับ เข็ม 2
|
ระยะห่างระหว่างเข็ม 2 กับ เข็ม 3
|
COMIRNATYTM (Pfizer-BioNTech)
|
|
|
|
|
ขนาด 3 ไมโครกรัม/โดส
|
0.2 มิลลิลิตร
|
3 เข็ม
|
3-8 สัปดาห์
|
8 สัปดาห์
|
ขนาด 10 ไมโครกรัม/โดส
|
0.2 มิลลิลิตร
|
2 เข็ม
|
3-12 สัปดาห์
|
*
|
ขนาด 30 ไมโครกรัม/โดส
|
0.3 มิลลิลิตร
|
2 เข็ม
|
3 สัปดาห์
|
*
|
SPIKEVAXTM (Moderna)
|
|
|
|
|
ขนาด 50 ไมโครกรัม/โดส
|
0.25 มิลลิลิตร
|
2 เข็ม
|
4-12 สัปดาห์
|
*
|
ขนาด 100 ไมโครกรัม/โดส
|
0.5 มิลลิลิตร
|
2 เข็ม
|
4 สัปดาห์
|
*
|
*ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างรุนแรงอาจพิจารณาฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 (เป็นส่วนหนึ่งของวัคซีนชุดแรก) หลังจากได้รับเข็มที่ 2 ไปแล้วอย่างน้อย 28 วัน
สำหรับวัคซีนเข็มกระตุ้นอาจพิจารณาให้ตามคำแนะนำ ขึ้นกับชนิดของวัคซีนในแต่ละกลุ่มอายุ โดยมีระยะห่างตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป
ควรทำอย่างไรหากไม่สามารถมาฉีดวัคซีนตามกำหนดนัด
กรณีที่ไม่สามารถมารับวัคซีนได้ตามกำหนดนัด ให้ปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือพยาบาลในการมารับวัคซีนที่ไม่ตรงตามนัด
ผู้ที่ไม่ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
- ผู้ที่มีปฏิกิริยาการแพ้อย่างรุนแรงต่อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หรือส่วนประกอบอื่นๆ ของวัคซีน
- ผู้ที่มีไข้หรือเจ็บป่วยควรเลื่อนการรับวัคซีนไปก่อน กรณีเป็นหวัดเล็กน้อยไม่มีไข้สามารถรับวัคซีนได้
ผู้ที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกัน เช่น ยากลุ่ม
สเตียรอยด์ขนาดสูงหรือยาเคมีบำบัด เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลในผู้ป่วยกลุ่มนี้และอาจตอบสนองไม่ดีต่อวัคซีน จึงต้องประเมินเปรียบเทียบประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดการติดเชื้อ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
- ผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ผู้ที่มีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดวัคซีนเนื่องจากเป็นการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ อาจมีเลือดออกหรือจ้ำเลือดเกิดขึ้นหลังฉีดได้
อาการไม่พึงประสงค์จากการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีอะไรบ้าง
โดยทั่วไปอาจมีอาการปวด บวม คัน แดงบริเวณที่ฉีด อาการอื่นๆ ที่อาจพบได้ เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหัว หรือมีไข้ ส่วนมากอาการไม่รุนแรงและหายไปได้เองใน 1-3 วัน ทั้งนี้ยังไม่มีข้อมูลอาการไม่พึงประสงค์ในระยะยาวเนื่องจากเป็นวัคซีนใหม่
ข้อมูลเพิ่มเติมด้านอาการไม่พึงประสงค์เฉพาะวัคซีน
- COMIRNATYTM (Pfizer-BioNTech) พบอาการไม่พึงประสงค์แบ่งตามความถี่ที่พบดังตาราง
ความถี่
|
อาการไม่พึงประสงค์ที่พบ
|
พบบ่อยมาก (≥1/10)
มากกว่า 1 ใน 10 ราย
|
บริเวณที่ฉีดยา: ปวด บวม
ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ท้องเสีย อ่อนล้า หนาวสั่น มีไข้ หงุดหงิดง่าย (พบในเด็กอายุ 6-23 เดือน)
|
พบบ่อย (≥1/100, <1/10)
มากกว่า 1 ใน 100 ถึงน้อยกว่า 1 ใน 10 ราย
|
บริเวณที่ฉีดยา: แดง
คลื่นไส้ อาเจียน
|
พบไม่บ่อย (≥1/1,000, <1/100)
มากกว่า 1 ใน 1,000 ถึงน้อยกว่า 1 ใน 100 ราย
|
บริเวณที่ฉีดยา: คัน ความรู้สึกไม่สบาย
ต่อมน้ำเหลืองโต
ปฏิกิริยาภูมิไวเกิน (ผื่น คัน ลมพิษ)
|
พบได้น้อย (≥1/10,000, <1/1,000)
มากกว่า 1 ใน 10,000 ถึงน้อยกว่า 1 ใน 1,000 ราย
|
อัมพาตเฉียบพลันที่ใบหน้า
|
ไม่ทราบความถี่
|
อาการแพ้แบบ Anaphylaxis
กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ**
|
- SPIKEVAXTM (Moderna) พบอาการไม่พึงประสงค์แบ่งตามความถี่ที่พบดังตาราง
ความถี่
|
อาการไม่พึงประสงค์ที่พบ
|
พบบ่อยมาก (≥1/10)
มากกว่า 1 ใน 10 ราย
|
บริเวณที่ฉีดยา: ปวด บวม เจ็บ
ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ต่อมน้ำเหลืองโต คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย หนาวสั่น มีไข้
|
พบบ่อย (≥1/100, <1/10)
มากกว่า 1 ใน 100 ถึงน้อยกว่า 1 ใน 10 ราย
|
บริเวณที่ฉีดยา: ผื่นแดง ผื่นลมพิษ
|
พบไม่บ่อย (≥1/1,000, <1/100)
มากกว่า 1 ใน 1,000 ถึงน้อยกว่า 1 ใน 100 ราย
|
บริเวณที่ฉีดยา: คัน
|
พบได้น้อย (≥1/10,000, <1/1,000)
มากกว่า 1 ใน 10,000 ถึงน้อยกว่า 1 ใน 1,000 ราย
|
มีอาการอัมพาตของกล้ามเนื้อส่วนปลายบริเวณใบหน้าแบบเฉียบพลัน
อาการหน้าบวม
|
ไม่ทราบความถี่
|
อาการแพ้ชนิดรุนแรง ภาวะภูมิไวเกิน Anaphylaxis
กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ**
|
**ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ พบรายงานการเกิดน้อยมาก มักพบภายใน 14 วันหลังจากได้รับวัคซีน รายงานส่วนใหญ่พบในเพศชายวัยหนุ่ม โดยเกิดภายหลังการฉีดวัคซีนครั้งที่ 2 ซึ่งการดำเนินไปของโรคของภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจากการฉีดวัคซีนนั้นไม่แตกต่างจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบโดยทั่วไป
ผู้ที่รับการฉีดวัคซีน (รวมถึงผู้ปกครองหรือผู้ดูแล) ควรสังเกตอาการเพื่อสามารถแจ้งแพทย์ได้ทันท่วงที หากมี อาการที่อาจบ่งชี้ถึงภาวะนี้ เช่น การเจ็บหน้าอก (แบบเฉียบพลันและอาการคงอยู่) หายใจสั้น หรือใจสั่นภายหลังจากการฉีดวัคซีน
ทำอย่างไรหากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงหลังจากรับวัคซีน
หากฉีดวัคซีนแล้วมีปฏิกิริยาแพ้รุนแรง เช่น มีผื่นทั้งตัว หน้าบวม คอบวม หายใจลำบาก เจ็บแน่นหน้าอก ใจสั่น วิงเวียนหรือ อ่อนแรง หรือมีอาการแขนขาอ่อนแรง ควรรีบมาโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
อันตรกิริยาระหว่างวัคซีนป้องกันโควิด-19 กับยาอื่นที่ให้ร่วมกัน
ข้อมูลเกี่ยวกับการให้วัคซีน mRNA COVID-19 ควบคู่กับวัคซีนอื่นยังคงมีจำกัด อย่างไรก็ตามการให้วัคซีนโควิด-19 ที่เป็นชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) สามารถให้พร้อมกับวัคซีนอื่นๆ ในวันเดียวกัน หรือห่างกันเท่าใดก็ได้
ข้อควรปฏิบัติอื่นๆ
- ควรสังเกตอาการที่สถานพยาบาลหลังได้วัคซีนอย่างน้อย 15 นาที และควรสังเกตอาการต่อที่บ้าน
- หากมีอาการข้างเคียงควรปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือบุคลากรทางการแพทย์ทราบก่อนการรับวัคซีนครั้งต่อไป
- วัคซีนอาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ทั้งหมด แต่ป้องกันโรครุนแรงได้เกือบทั้งหมด ดังนั้นผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วอาจติดเชื้อแบบไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยมากได้ จึงยังจำเป็นต้องรักษามาตรการในการป้องกันเชื้อในชุมชน ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางกายภาพ และล้างมือบ่อยๆ ต่อไป
- ควรรับวัคซีนตามกำหนดและเก็บบันทึกการรับวัคซีนไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
- หากมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับวัคซีนควรปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การดูแลท่าน
เอกสารอ้างอิง
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 25 มีนาคม 2568