ชีวิตใหม่หลังผ่าตัดปลูกถ่ายไต
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่ามีผู้ป่วย
โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายหลายรายที่รู้สึกว่าช่วงเวลาของการบำบัดทดแทนไตคือวาระสุดท้ายของตนเอง เพราะความเจ็บปวดทุกข์ทรมานจากการฟอกเลือดหรือเสี่ยงติดเชื้อจากล้างไตทางช่องท้องนั้นบั่นทอนคุณภาพชีวิตอย่างมาก แต่หลังจากที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไตแล้ว ผู้ป่วยมีสุขภาพกายและใจดีขึ้น พึ่งพาตัวเองได้ มีความหวัง มีอนาคต ไม่ต่างจากการได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม พึงตระหนักว่าหลัง
ผ่าตัดปลูกถ่ายไตแล้ว ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจการทำงานของไต (serum creatinine) และรับประทานยากดภูมิคุ้มกันอย่างเคร่งครัด เพราะหากละเลยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ผู้ป่วยอาจต้องสูญเสียไตใหม่ที่ได้รับและเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา
การผ่าตัดปลูกถ่ายไตอาจมีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ ดังนี้
- ความเสี่ยงจากการที่ร่างกายปฏิเสธไตใหม่ (kidney rejection) จากสถิติการผ่าตัดปลูกถ่ายไตในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์พบว่า อัตราการเกิดภาวะปฏิเสธไตใหม่อย่างเฉียบพลัน (acute rejection) พบน้อยกว่า 10% ซึ่งความเสี่ยงในเรื่องนี้สามารถป้องกันได้หากผู้ป่วยได้รับยากดภูมิคุ้มกันเพียงพอ
- ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นทันทีหลังผ่าตัด ได้แก่ ภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ เลือดออก การเปลี่ยนแปลงของระบบหัวใจและการไหลเวียน เช่น ความดันโลหิตต่ำ และปัญหาระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องผูก
- ภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ หลังการผ่าตัดปลูกถ่ายไตภูมิคุ้มกันของร่างกายจะลดลง ทำให้มีโอกาสรับเชื้อได้ง่าย
- ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ พบได้ภายหลังผ่าตัดปลูกถ่ายไตนานๆ ซึ่งมักเกิดจากการบริหารยากดภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคตับอักเสบ โรคมะเร็ง เป็นต้น
เรียบเรียงโดย
ศูนย์โรคไต โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2565