เนื่องจาก
โรคเอดส์ยังไม่มียารักษาหาย แต่ยาต้านไวรัสสามารถควบคุมไวรัส ทำให้ผู้ติดเชื้อมีชีวิตยืนยาวขี้นและเข้าสู่วัยสูงอายุ โดยปัญหาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้คือ ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าสู่วัยสูงอายุจะมีโรคเรื้อรังมากกว่าคนปกติ แต่หากผู้ติดเชื้อดูแลตนเองเป็นอย่างดีก็สามารถมีสุขภาพดีเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุได้
สถิติจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) รายงานว่าปี ค.ศ.2018 ในสหรัฐอเมริกาประมาณการว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 1.2 ล้านคน เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 55 ปี จำนวน 379,000 คน และพบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 37,968 คน เป็นผู้ติดเชื้อที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 50 ปี คิดเป็นร้อยละ 17 โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายจำนวน 3,019 คน คิดเป็นร้อยละ 66
ผู้สูงอายุที่ติดเชื้อเอชไอวีอาจป่วยด้วยโรคดังต่อไปนี้
การดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดภาวะโรคเรื้อรัง
สิ่งสำคัญคือการตรวจสุขภาพเป็นประจำ รวมถึงติดตามตรวจเลือดและปัสสาวะตามคำสั่งแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน หากมีอาการผิดปกติอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนสูตรยาที่รับประทาน ซึ่งแพทย์จะต้องวินิจฉัยหาสาเหตุของความผิดปกตินั้น นอกจากนี้ยังมีข้อแนะนำในการดูแลรักษาสุขภาพ โดยปฏิบัติดังต่อไปนี้คือ
- เลิกสูบบุหรี่
- ออกกำลังกาย
- ควบคุมอาหารหรือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
- ควบคุมน้ำหนัก
- จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
- ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
- ฝึกสมองด้านความจำ
- ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์
หากมีปัญหาสามารถปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางคลินิกได้ เช่น นักโภชนาการ เภสัชกร พยาบาลผู้ประสานงานทางคลินิกเฉพาะทาง เป็นต้น
ติดต่อสอบถามกับทีมพยาบาลผู้ให้คำปรึกษา (Clinical Nurse Coordinator)
เบอร์โทร
081-8403894
เวลาสำหรับให้คำปรึกษา 08.00-17.00 น.
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 23 มิถุนายน 2565