โรคของตับอ่อน
อีกหนึ่งภัยร้ายในระบบทางเดินอาหาร
ตับอ่อนอักเสบ มะเร็งตับอ่อน และถุงน้ำในตับอ่อน อาจเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยนักเมื่อเทียบกับโรคในระบบทางเดินอาหารอื่น ๆ แต่โรคที่เกี่ยวกับตับอ่อนเหล่านี้มีความรุนแรงและในบางกรณีไม่มีอาการบ่งชี้และไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน
ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคและอาการที่ควรเฝ้าระวังช่วยให้ผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้ตระหนักและรีบมาพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งตรวจพบเร็วเท่าไรโอกาสหายจากโรคก็ยิ่งมีมากเท่านั้น Better Health ฉบับนี้รวบรวมความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคของตับอ่อนมาฝากกัน
รู้จักกับตับอ่อน
ตับอ่อนเป็นอวัยวะหนึ่งในระบบทางเดินอาหาร มีลักษณะเป็นต่อมขนาดใหญ่ มีรูปร่างยาวรีคล้ายใบไม้ ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ตำแหน่งของตับอ่อนนั้นไม่ได้อยู่ในช่องท้อง แต่อยู่ด้านหลังของกระเพาะอาหารใกล้กับลำไส้เล็กส่วนต้น ตับอ่อนประกอบด้วยเซลล์หลัก 2 ชนิด คือ เซลล์จากต่อมไร้ท่อ มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนหลายชนิด อาทิ อินซูลินและกลูคากอน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด และเซลล์จากต่อมมีท่อที่มีหน้าที่สร้างน้ำย่อยอาหารโดยเฉพาะไขมัน โดยน้ำย่อยจะผ่านเข้าไปในลำไส้เล็กผ่านทางท่อตับอ่อน
โรคตับอ่อนอักเสบ
โรคที่เกิดกับตับอ่อนที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่ โรคตับอ่อนอักเสบ เป็นภาวะที่น้ำย่อยในตับอ่อนไม่สามารถไหลผ่านท่อของตับอ่อนได้ ทำให้เกิดการย่อยเนื้อเยื่อของตัวตับอ่อนเอง ส่งผลให้เกิดการอักเสบขึ้น เมื่อมีการอักเสบหลายครั้งเข้าก็จะกลายเป็นการอักเสบแบบเรื้อรัง และจะเริ่มมีหินปูนไปเกาะที่ตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนมีขนาดเล็กลง สมรรถภาพในการทำงานลดลง
“การอักเสบของตับอ่อนแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ การอักเสบแบบเฉียบพลัน และการอักเสบแบบเรื้อรัง โดยผู้ป่วยจะมีอาการอักเสบแบบเฉียบพลันก่อน หากโรคไม่หายขาดหรือกลับมาเป็นอีกเพราะสาเหตุยังคงอยู่ ก็จะกลายเป็นการอักเสบแบบเรื้อรัง”
ในการอักเสบแบบเฉียบพลันนั้น ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องอย่างมากและปวดตลอดเวลา โดยจะปวดร้าวไปทางด้านหลังเหมือนโดนมีดแทงนอกจากนี้ยังอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย แต่ก็เป็นไปได้ที่ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการปวดเลยแต่พบได้น้อยมาก ส่วนการอักเสบแบบเรื้อรัง ผู้ป่วยอาจปวดท้องไม่มากแต่มักมีอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น ปวดท้องเรื้อรัง ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ เกิดโรคเบาหวาน ท้องเสียเรื้อรังเพราะไม่สามารถย่อยไขมันได้ ถ่ายอุจจาระมีไขมันลอยอยู่ น้ำหนักลด มีอาการตาเหลืองตัวเหลือง เป็นต้น
ปัจจัยการเกิดโรค
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักและนิ่วในถุงน้ำดีเป็นสาเหตุหลักของโรคที่พบได้มากที่สุด ส่วนสาเหตุอื่นๆ ได้แก่ ภาวะไตรกลีเซอไรด์สูง ผลข้างเคียงของยาบางชนิด โรคภูมิต้านตนเอง มีพยาธิหรือไวรัสบางอย่าง “มีประมาณร้อยละ 5 – 10 ที่เราไม่พบสาเหตุของโรค ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงมีโอกาสกลับมาเป็นโรคได้อีก เพราะเราไม่รู้ว่าต้นเหตุคืออะไร”
การวินิจฉัยและรักษา
ผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบที่มีอาการไม่รุนแรงมักมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้อง ท้องอืด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซึ่งการตรวจเลือดเพื่อดูเอนไซม์ของตับอ่อนที่ขึ้นสูง
ร่วมกับการทำอัลตราซาวนด์และเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้ว่ามีอาการตับอ่อนอักเสบหรือไม่
เมื่อพบว่าผู้ป่วยมีอาการตับอ่อนอักเสบ แพทย์จะทำการรักษาโดยให้ งดน้ำ งดอาหาร เพื่อหยุดการทำงานของตับอ่อน ร่วมกับการให้ยาลดอาการปวด และให้น้ำ 24 - 48 ชั่วโมงเพราะผู้ป่วยจะมีอาการของภาวะขาดน้ำ ในกรณีที่มีการอักเสบมากจนเกิดการเน่าตายของเนื้อเยื่อตับอ่อน จะมีโอกาสติดเชื้อสูง แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะและอาจต้องทำการผ่าตัดเพื่อเปิดเข้าไปล้างทำความสะอาด
“โรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันสามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้าตรวจพบสาเหตุของโรค เช่น พบว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีเราก็ผ่าตัดออกไป ดังนั้นถ้าตรวจพบเร็วและไม่มีโรคแทรกซ้อน โรคนี้ถือเป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำ ส่วนโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรังที่ยังหาสาเหตุไม่ได้นั้น ผู้ป่วยจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่โรคอาจพัฒนาไปเป็นโรคอื่น ๆ เช่น เบาหวาน หรือมะเร็งในตับอ่อนได้”
มะเร็งตับอ่อน
แม้จะพบไม่บ่อยนักในประเทศไทย แต่จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อนก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ขณะที่องค์การอนามัยโลกรายงานว่ามะเร็งตับอ่อนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับเจ็ดของการเสียชีวิตจากมะเร็งทั่วโลกและเป็นอันดับสี่ในสหรัฐอเมริกา
อาการและสาเหตุ
มะเร็งตับอ่อนจัดเป็นมะเร็งชนิดร้ายแรงเนื่องจากตรวจพบได้ยากและอาการในระยะแรกไม่จำเพาะ ผู้ป่วยอาจมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสียเบื่ออาหาร ตัวเหลือง หรือไม่มีอาการเลยก็ได้ แต่พบจากการตรวจสุขภาพทั่วไปที่แพทย์เกิดข้อสงสัยจากผลการตรวจเลือด และแนะนำให้ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
สำหรับสาเหตุของโรคนั้น ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่งานวิจัยพบว่าการสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสัตว์ในปริมาณสูงรวมถึงความผิดปกติทางพันธุกรรม อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคได้ เช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง หรือผู้ป่วยที่มีถุงน้ำในตับอ่อน
การรักษา
การผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออกเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด ซึ่งทำได้ในกรณีที่ตรวจพบเร็วและมะเร็งยังไม่แพร่กระจาย
“หลายครั้งที่กว่าจะพบ ผู้ป่วยก็เป็นมากแล้วคืออยู่ในระยะที่ไม่สามารถผ่าตัดได้และมีอัตราการรอดชีวิตต่ำ ดังนั้น เราจะแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ อาจจะทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี” ในช่วงท้ายการเจ็บป่วยนั้น บางครั้งอาจยังไม่ทราบสาเหตุและไม่มีอาการบ่งชี้เฉพาะ อย่านิ่งนอนใจหากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเพราะเรื่องของสุขภาพนั้นประมาทไม่ได้
ถุงน้ำในตับอ่อน
ถุงน้ำ หรือ ซีสต์ (cysts)
เป็นความผิดปกติของอวัยวะหรือของเนื้อเยื่อที่เกิดได้แทบทุกส่วนของร่างกายรวมถึงในตับอ่อน โดยถุงน้ำจะมีลักษณะเป็นถุงปิด ภายในอาจมีน้ำ ของเหลว หรือก้อนเนื้อนิ่ม ๆ ที่เกิดจากของเหลวปนกับเนื้อเยื่อ โรคถุงน้ำในตับอ่อนเป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างน้อย และโดยทั่วไปถุงน้ำจะมีขนาดเล็กผู้ป่วยจึงมักไม่มีอาการ แต่ตรวจพบได้จากการอัลตราซาวนด์หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ซึ่งหากนำของเหลวภายในไปตรวจแล้วไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ แพทย์จะเพียงแค่ตามดูอาการว่าถุงน้ำมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือไม่ แต่ถ้าพบว่ามีโอกาสพัฒนาไปเป็นมะเร็ง แพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดออกทันที
ถุงน้ำในตับอ่อนเกิดได้กับทุกคน ทุกเพศทุกวัย นับเป็นหนึ่งในโรคที่ผู้ป่วยได้ประโยชน์จากการเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 31 มีนาคม 2565