“อยากให้เชื่อมั่นว่า มาที่นี่คุณต้องมีชีวิตใหม่ ได้กลับไปอย่างแน่นอน” ...นี่คือ ความในใจจากประสบการณ์จริงของผู้ป่วยผ่าตัดปลูกถ่ายไต
คุณสิริวิภาเป็นผู้หญิงที่ชอบทำงาน ลุยงานจนลืมใส่ใจสุขภาพของตัวเอง มาทราบว่าสุขภาพไม่ค่อยดีในช่วงก่อนคลอดบุตรที่มีอาการโปรตีนรั่วในปัสสาวะจนต้องผ่าคลอดฉุกเฉิน แต่ก็ยังไม่ได้เอะใจว่าอาการโปรตีนรั่วในปัสสาวะเป็นสัญญาณของไตอักเสบ เพราะไม่ได้มีอาการบวมตามร่างกาย เพียงแต่มี
ความดันโลหิตสูงและรู้สึกปวดศีรษะ จึงซื้อยาแก้ปวด
ไมเกรนมารับประทานเอง
จนกระทั่งหลังคลอดได้ประมาณหนึ่งปี คุณสิริวิภาเริ่มรู้สึกเหนื่อยง่าย กระสับกระส่าย นอนหลับยากและความดันโลหิตขึ้นสูงอยู่ตลอด จึงไปพบแพทย์ผลการตรวจเลือดพบว่าเป็นโรคไต
ระยะที่ 5 ซึ่ง
เป็นภาวะไตวายระยะสุดท้าย
คุณสิริวิภากล่าวถึงความรู้สึกในตอนที่แพทย์แจ้งผลตรวจนั้นว่า “เหมือนกับถูกกระชากวิญญาณออกจากร่างกาย วันนั้นเหมือนว่าเราตาย เหมือนหมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว”
คุณสิริวิภายังคงรู้สึกไม่มั่นใจ คิดกังวลในหลาย ๆ เรื่อง “บอกตรง ๆ ว่ากลัวเรื่องค่าใช้จ่าย กลัวว่ารับไตจากพี่ชายแล้วเค้าจะอยู่อย่างไร จะเป็นอันตรายไหม คิดถึงลูกว่าตัวเองต้องตายแน่ ๆ ไม่ได้อยู่กับลูกแน่นอน” จนกระทั่งได้พบกับคุณเจเจ (คุณพรรณรัตน์ นพคุณ) พยาบาลผู้ประสานงานการปลูกถ่ายไตประจำศูนย์โรคไต ที่ทำให้รู้สึกประทับใจและทำให้ตัดสินใจได้ว่าจะทำ
การผ่าตัดปลูกถ่ายไตที่บำรุงราษฎร์
ท้ายสุด คุณสิริวิภากล่าวว่า
“อยากให้คนป่วยโรคไตมาที่นี่ รู้ว่าทุกคนกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเพราะเพื่อนทุกคนจะถามว่าแพงไหม ด้วยภาพลักษณ์ของบำรุงราษฎร์ แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้แพงอย่างที่ทุกคนคิด แต่ที่สัมผัสจากบำรุงราษฎร์คือความใส่ใจ คุณหมอและทีมแพทย์ทุกคนเก่งมาก มีความพร้อม ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก หลังผ่าตัดคุณหมอดูแลดีมาก ไม่ใช่ทำตามหน้าที่แต่ใช้หัวใจในการดูแล รวมถึงน้องเจเจที่ยังคุยกันตลอด ทำให้เราอุ่นใจเหมือนได้น้องสาวที่เราสามารถคุยได้ทุกเรื่อง
…อยากให้เชื่อมั่นว่ามาที่นี่คุณต้องมีชีวิตใหม่ ได้กลับไปอย่างแน่นอน”
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2565