เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคอีสุกอีใส
โรคอีสุกอีใส (Chickenpox หรือ Varicella) เป็นโรคระบาดที่แพร่กระจายได้ง่าย มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสวาริเซลลา (Varicella-zoster virus, VZV) โดยเชื้อไวรัสนี้จะทำให้เกิดผื่นตุ่มน้ำใส และคัน ซึ่งมักจะเริ่มจากบริเวณหน้าอก หลัง และใบหน้าก่อน จากนั้นจึงลามไปบริเวณอื่นๆ ทั่วร่างกาย ทั้งนี้ อาการไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และปวดศีรษะ เป็นอาการที่พบร่วมได้บ่อยของผู้ป่วยโรคอีสุกอีใส
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยโรคอีสุกอีใส ได้แก่ การติดเชื้อที่ผิวหนัง
ปอดอักเสบ หลอดเลือดอักเสบ สมองอักเสบ รวมถึงการติดเชื้อในกระแสเลือด กระดูก และข้อ นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อนอาจป่วยเป็น
โรคงูสวัด (Shingles หรือ Herpes zoster) ในอนาคตได้
ทารกแรกเกิด วัยรุ่น ผู้ใหญ่ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดอาการรุนแรงหากป่วยเป็นโรคอีสุกอีใส รวมถึงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่างๆ อีกด้วย
เนื่องจากในตุ่มน้ำใสของผู้ป่วยโรคอีสุกอีใสจะมีเชื้อไวรัสวาริเซลลาปนเปื้อนอยู่ การติดต่อของโรคอีสุกอีใสโดยทั่วไปจึงเป็นการติดต่อผ่านทางการสูดหายใจเอาละอองของตุ่มน้ำใสเข้าไป หรือสัมผัสโดยตรงกับตุ่มน้ำใส หรือสัมผัสถูกของใช้ที่มีการปนเปื้อนของเชื้อไวรัส ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคอีสุกอีใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน หรือยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส จะมีโอกาสป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสได้สูงถึง 90% ดังนั้น การฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสจึงเป็นสิ่งที่แนะนำสำหรับบุคคลทุกคน โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสครบ 2 เข็ม มักจะมีภูมิต้านทานโรคตลอดชีวิต
ทำความรู้จักกับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส
วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส เป็นวัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ เตรียมจากเชื้อไวรัสวาริเซลลาที่ถูกทำให้อ่อนแรงลง การได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการเกิดโรคและช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วยังอาจมีโอกาสป่วยเป็นโรคอีสุกอีใส แต่อาการที่เกิดมักไม่รุนแรง และหายป่วยเร็วกว่าผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน
ใครควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส ?
บุคคลทุกคนที่ไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน และยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้
- เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี ควรได้รับวัคซีนจำนวน 2 เข็ม
- เข็มแรก: ช่วงอายุ 12 ถึง 15 เดือน
- เข็มที่สอง: ช่วงอายุ 18 เดือน ถึง 4 ปี
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป ควรได้รับวัคซีนจำนวน 2 เข็ม โดยห่างกันอย่างน้อย 28 วัน
วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสนั้นสามารถฉีดได้ในทุกช่วงเวลาของปี อีกทั้งยังฉีดพร้อมกับวัคซีนชนิดอื่นได้ด้วย นอกจากนี้ เด็กที่มีอายุระหว่าง 12 เดือน ถึง 12 ปี อาจรับเป็นวัคซีนรวมเพียง 1 เข็ม ที่เรียกว่าวัคซีน MMRV ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส รวมกับวัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน (Measles, mumps, and rubella vaccine หรือ วัคซีน MMR)
ใครไม่ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส ?
- หญิงตั้งครรภ์ หรือกำลังวางแผนจะตั้งครรภ์ภายใน 3 เดือนข้างหน้า
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยวัณโรคที่อยู่ในระยะแสดงอาการ (active TB) ที่ไม่ได้รับการรักษา หรือผู้ป่วยที่กำลังมีไข้อยู่
- ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
- ผู้ที่ได้รับการถ่ายเลือด หรือได้รับผลิตภัณฑ์จากเลือดอื่นๆ เมื่อไม่นานมานี้
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส
- อาการข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่
- ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีดวัคซีน
- มีไข้ (เกิดขึ้นภายใน 5-12 วัน หลังการได้รับวัคซีน)
- อาการข้างเคียงรุนแรง ได้แก่
- ปฏิกิริยาการแพ้รุนแรงเฉียบพลัน หรือ Anaphylaxis (พบน้อย)
หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ข้อมูลยาโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2567