• ผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในเต้านม (Fibroadenoma) ด้วยการเจาะชิ้นเนื้อ (core needle biopsy) มาแล้ว
• ก้อนเนื้องอกในเต้านมที่มีอาการเช่น คลำพบก้อน หรือมีอาการเจ็บที่ก้อน
• มีก้อนเนื้องอกในเต้านมที่มีขนาดตั้งแต่ 2 ซม.แต่ไม่เกิน 4 เซนติเมตร และสามารถมองเห็นได้ด้วยการตรวจอัลตร้าซาวด์
• ผู้ที่มีก้อนเนื้องอกขนาดโตขึ้น 20% ในระยะเวลา 6 เดือนที่ตรวจติดตามผล
• ผู้ที่มีผลตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องเอกซเรย์แมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์ได้ค่าไบแรดส์เป็น 4 (BIRADS 4) ซึ่งก้อนเนื้องอกมีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งได้ 2-10%
• ผู้ที่มีก้อนเนื้องอกหลายๆก้อน ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหลายครั้งและมีรอยแผลเป็นหลายจุด
• ไม่มีประวัติเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน
• ไม่ได้อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์
• ก้อนเนื้องอกไม่ได้อยู่ใกล้ผิวหนัง
• ไม่มีอาการเจ็บป่วยร้ายแรง

เนื่องจากเป็นการรักษาที่ไม่ใช้วิธีการผ่าตัด ดังนั้นจึงมีข้อดีหลายประการดังนี้

• ไม่ต้องวางยาสลบ ใช้เพียงการฉีดยาชาเฉพาะที่
• แผลเล็ก รอยแผลมีความยาวประมาณ 3 มิลลิเมตรเท่านั้น
• เจ็บน้อย
• สามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องนอนค้างคืนที่โรงพยาบาล
• ฟื้นตัวไว
• รักษารูปทรงของเต้านมได้ดีกว่าการผ่าตัด เนื่องจากไม่มีการทำลายของเนื้อเยื่อเต้านมปกติ

• หลังการทำหัตถการ ผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดตึงเล็กน้อย สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล
• สวมบราตลอด 24 ชั่วโมง
• ติดพลาสเตอร์ปิดแผลกันน้ำอย่างน้อย 72 ชั่วโมง
• ไม่ออกกำลังกายหรือยกของหนักเป็นเวลา 3 วัน
• อาจมีรอยช้ำเล็กน้อยซึ่งจะหายไปเองภายในเวลา 7 วัน
• กลับมาพบแพทย์เพื่อติดตามผลอีก 1 สัปดาห์

เซลล์เนื้องอกได้ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นระหว่างการจี้เย็นแล้ว หลังจากนั้นร่างกายจะค่อยๆสร้างเซลล์ใหม่ที่ปกติขึ้นมาแทนที่ ในช่วงแรกผู้ป่วยอาจยังรู้สึกว่ามีก้อนเนื้ออยู่ แต่ก้อนเนื้อจะมีขนาดเล็กลงจนกระทั่งร่างกายกำจัดไปหมดซึ่งสามารถติดตามได้จากการตรวจอัลตร้าซาวด์ ระยะเวลาในการหายไปของก้อนเนื้อแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนเนื้อและปัจจัยอื่นๆ จากการทำอัลตร้าซาวด์พบว่า

• หลังการทำ 6 เดือน ผู้ป่วยบางรายก้อนเนื้อหายไปหมด ในขณะที่บางรายก้อนเนื้อมีขนาดเล็กลง
• หลังการทำ 1 ปี ก้อนเนื้อจะมีขนาดเล็กลงและมีขอบที่ไม่ชัดเจน ผู้ป่วยส่วนหนึ่งพบว่าก้อนเนื้อได้สลายไปแล้ว
• หลังการทำ 2 ปี ผู้ป่วยทุกรายพบว่าก้อนเนื้อหายไปหมด