อาการแสดงของไข้หวัดใหญ่
- มีไข้/หนาวสั่น
- เจ็บคอ
- ปวดกล้ามเนื้อ
- เมื่อยล้า
- ไอ
- ปวดศีรษะ
- น้ำมูกไหลหรือคัดจมูก
- อ่อนเพลีย
บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ สมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต อย่างไรก็ดี เราสามารถป้องกันการเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ได้ด้วยการฉีดวัคซีน
วิธีการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
- ใส่หน้ากากอนามัย
- ล้างมือบ่อย ๆ
- หลีกเลี่ยงไปในที่มีคนจำนวนมาก
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่คืออะไร ?
วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza vaccine) ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย เป็นวัคซีนที่ผลิตจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซ่าที่ตายแล้ว มีส่วนประกอบของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์หลัก (Quadrivalent inactivated influenza vaccine)
โดยสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่นำมาผลิตวัคซีนจะแตกต่างกันในแต่ละปี ตามที่องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) กำหนดให้ใช้
วัคซีนที่มีจำหน่ายในโรงพยาบาล คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
ประกอบด้วย
สายพันธ์ A 2 สายพันธุ์
- A/Victoria/4897/2022 (H1N1)
- A/Thailand/8/2022 (H3N2)
และ
สายพันธุ์ B 2 สายพันธุ์
- B/Austria/1359417/2021 (B/Victoria lineage)
- B/Phuket/3073/2013 (B/Yamagata lineage)
ใครควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ?
บุคคลทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดการเจ็บป่วยรุนแรงหากได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ได้แก่
- หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
- เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี
- ผู้มีโรคเรื้อรัง ดังนี้ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย และเบาหวาน
- บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
- โรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมถึงผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ) หรือผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด
- โรคอ้วน (น้ำหนัก > 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)
เมื่อไรที่ท่านควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่?
ควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำทุกปีโดยเร็ว เนื่องจากวัคซีนจะช่วยป้องกันได้หากฤดูไข้หวัดใหญ่เกิดเร็วขึ้น ในประเทศไทยโรคไข้หวัดใหญ่สามารถพบได้ตลอดปี แต่พบมากในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน และช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ดังนั้นการได้รับวัคซีนเดือนธันวาคมหรือช้ากว่านั้นก็ยังสามารถได้รับประโยชน์จากวัคซีนได้
วิธีใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
อายุ |
จำนวนเข็ม |
6 เดือนขึ้นไปจนถึง 9 ปี |
1-2 เข็ม (ห่างกัน 4 สัปดาห์)* |
ตั้งแต่ 9 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่ |
1 เข็ม |
*ฉีดจำนวน 2 เข็มหากเด็กไม่เคยได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาก่อน
ข้อห้ามในการรับวัคซีน คือ คนที่เคยแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่มาก่อนแบบขั้นรุนแรง ( anaphylaxis shock)
ฉีดแล้วภูมิจะขึ้นเมื่อไหร่?
หลังได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว ร่างกายจะ
ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในการสร้างภูมิคุ้มกันโรค และภูมิคุ้มกันนี้จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี จึงแนะนำให้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วยังอาจเป็นโรคไข้หวัดใหญ่จากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อื่นที่ไม่ได้บรรจุในวัคซีน แต่ความรุนแรงของการเจ็บป่วยจะลดน้อยลง รวมถึงช่วยลดการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของโรคได้
ผลไม่พึงประสงค์ของวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ผลไม่พึงประสงค์ที่พบได้ทั่วไป |
ระบม แดง หรือบวมบริเวณที่ฉีด เสียงแหบ เจ็บ คันตาหรือตาแดง ไอ มีไข้ ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ คัน เมื่อยล้า ปกติแล้วจะหายได้เองภายใน 1-2 วัน |
ผลไม่พึงประสงค์รุนแรง |
การแพ้ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตเกิดน้อยมาก หากเกิดขึ้นจะปรากฏใน 2-3 นาทีถึง 2-3 ชั่วโมงหลังฉีดโดยสังเกตอาการแพ้ที่รุนแรงรวมทั้งการหายใจไม่สะดวก เสียงแหบ หรือ ลมพิษ หากเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงให้รีบไปโรงพยาบาลทันที |
เรียบเรียงโดย ศูนย์ข้อมูลยาโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
Tel: 02 011 3399
Email:
[email protected]
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2568