การป้องกัน
เราให้บริการตรวจเพื่อค้นหาความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งทั้งจากปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรมและปัจจัยภายใน เช่น สภาพแวดล้อมและการใช้ชีวิต เพื่อป้องกันโรคหรือค้นพบเซลล์มะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้นโดยยังไม่แสดงอาการ พร้อมให้ความรู้และคำปรึกษารวมถึงวางแผนในการป้องกันโรคมะเร็งแบบเฉพาะบุคคล โปรแกรมของเราเหมาะกับ
ผู้ที่มีความเสี่ยง ทางด้านพันธุกรรมและ/หรือสภาพแวดล้อม
ผู้ที่มีสุขภาพดี มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีหรือไม่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง แต่ที่มีความกังวลและต้องการตรวจหาความเสี่ยงโรคมะเร็ง
จุดเด่นของโปรแกรมการตรวจป้องกันมะเร็ง
- โปรแกรมการตรวจที่ครอบคลุม ตั้งแต่การค้นหาความเสี่ยงและค้นหามะเร็งในระยะเริ่มแรกได้อย่างแม่นยำ
- มีทีมผู้ชำนาญการทางด้านต่างๆที่เกี่ยวข้อง สามารถแปลผลการตรวจได้อย่างแม่นยำ เช่น แพทย์เฉพาะทางด้านเวชพันธุศาสตร์และนักพันธุศาสตร์
- การตรวจยีนในห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองระดับโลก
- ทีมสหสาขาวิชาชีพเฉพาะทางทุกสาขาที่เกี่ยวข้องในการให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพและร่วมจัดโปรแกรมการตรวจที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงภายนอก เช่น สภาพแวดล้อม กับพันธุกรรมว่าทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้มากน้อยเพียงใด เพื่อนำเสนอโปรแกรมลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งให้แก่ผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม ให้มีโอกาสเกิดมะเร็งได้น้อยที่สุดหรือเป็นมะเร็งแล้วมีโอกาสในการรักษาหาย
การตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็ง
การตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งที่แม่นยำและครอบคลุมทุกมิติ ดังนี้
- การตรวจวินิจฉัยระยะของมะเร็ง (TNM) โดยการดูปัจจัย 3 อย่างร่วมกัน คือ
- ขนาดของก้อนมะเร็ง (Tumor)
- การแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เคียง (Node involvement) และ
- การแพร่กระจายของมะเร็งไปยังอวัยวะอื่น (Metastasis)
- การวินิจฉัยคุณสมบัติเฉพาะของเซลล์มะเร็งที่มีความไวต่อฮอร์โมนและโปรตีนบางชนิด โดยจะใช้ข้อมูลสองส่วนประกอบกัน คือ เซลล์มะเร็งมีตัวรับฮอร์โมนหรือไม่ (hormone receptor) และมีตัวรับโปรตีนกระตุ้นการเจริญเติบโตหรือไม่ (human epidermal growth factor receptor-2) ทำให้แพทย์สามารถเลือกใช้ยาได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสำหรับกับผู้ป่วยมากที่สุด
- การตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจ (Biopsy) เพื่อยืนยันชนิดและความรุนแรงของก้อนเนื้อที่ผิดปกติ แพทย์ของบำรุงราษฎร์มีความชำนาญและประสบการณ์ในการตัดชิ้นเนื้ออย่างแม่นยำสูงในการวินิจฉัยโรคมะเร็ง
- การตรวจวินิจฉัยมะเร็งจากตัวอย่างของเหลว (liquid biopsy) คือการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาสารพันธุกรรมผิดปกติที่บ่งชี้มะเร็งและการหาลำดับเบสโดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ยุคใหม่ (next-generation sequence) เพื่อหาเซลล์มะเร็งที่อยู่ในกระแสเลือดและดีเอ็นเอบางชนิดของมะเร็ง ช่วยให้สามารถประเมินจำนวนของเซลล์มะเร็งในร่างกาย ทำให้สามารถติดตามความเสี่ยงต่อการกำเริบหรือการแพร่กระจาย มีความแม่นยำในการวินิจฉัยมะเร็งชนิดเป็นก้อน เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้
- การตรวจเพื่อดูว่าผู้ป่วยตอบสนองต่อการรักษาโดยการใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) หรือไม่ (Microsatellite Instability: MSI)
จุดเด่นในการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งของบำรุงราษฎร์
- การวินิจฉัยที่ถูกต้อง ทันเวลา และรู้ระยะของโรคทำให้รักษาโรคอย่างแม่นยำ
- การวินิจฉัยโรคมะเร็งในเชิงลึก ว่าเซลล์มะเร็งมีคุณลักษณะเฉพาะที่มีความไวต่อฮอร์โมนและโปรตีนบางชนิดหรือไม่
- พยาธิแพทย์ผู้มีความชำนาญชั้นสูงด้านการตรวจชิ้นเนื้ออย่างละเอียดเพื่อวินิจฉัยเซลล์มะเร็งอย่างแม่นยำ
การรักษาโรคมะเร็ง
- การรักษาด้วยเคมีบำบัด เป็นการให้ยาชนิดรับประทานหรือยาฉีดเข้าเส้นเลือดซึ่งมีฤทธิ์ทำลายหรือหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
- การฉายรังสี เป็นการใช้รังสีพลังงานสูงฉายไปตำแหน่งของเซลล์มะเร็งเพื่อทำลายกลุ่มก้อนเซลล์มะเร็ง
- การฉายรังสีด้วยเทคนิค VMAT เป็นเทคนิคการฉายรังสีแบบปรับความเข้ม IMRT (Intensity Modulated Radiation Therapy) ที่พัฒนาขึ้นโดยให้เครื่องฉายรังสีสามารถหมุนได้รอบตัวผู้ป่วย สามารถควบคุมความเร็วของการหมุน ปริมาณของรังสี และการเคลื่อนที่ของวัตถุกำบังรังสี จึงช่วยลดระยะเวลาของการฉายรังสี รวมทั้งทำให้การฉายรังสีมีความถูกต้องแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell) คือการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดโดยใช้เซลล์ของตนเองหรือใช้เซลล์ของผู้บริจาคเพื่อรักษาโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งระบบเลือดต่างๆ
- การฝังแร่กำมันตภาพรังสี (Brachytherapy) เป็นวิธีการรักษามะเร็งด้วยรังสีรักษาประเภทหนึ่ง โดยการใส่ต้นกำเนิดของรังสีภายในก้อนมะเร็งโดยตรงหรือใกล้ๆกับก้อนมะเร็ง ทำให้สามารถรักษาได้อย่างตรงจุดและลดความเสียหายของเนื้อเยื่อปกติบริเวณรอบๆก้อนมะเร็งได้
- การรักษาแบบเฉพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (Targeted Therapy) คือการรักษาโรคมะเร็งโดยให้ยาหรือสารไปยับยั้งกระบวนการส่งสัญญาณระดับเซลล์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเจริญเติบโตและแบ่งตัวของเซลล์
- การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) เป็นการรักษาโรคมะเร็งโดยการส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานเพื่อให้สามารถกำจัดหรือควบคุมเซลล์มะเร็งในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การรักษาด้วยการจี้เย็น เป็นวิธีการรักษามะเร็งปอดที่บอบช้ำน้อยและปลอดภัย เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถรักษามะเร็งปอดด้วยวิธีการมาตรฐาน เช่น การผ่าตัด การฉายรังสีและการให้ยาเคมีบำบัด
- การผ่าตัดโรคมะเร็งด้วยวิธีการที่เหมาะสมกับชนิดและระยะของโรคมะเร็ง ตั้งแต่การผ่าตัดแบบมาตรฐานไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น หุ่นยนต์ช่วยในการผ่าตัด
จุดเด่นในการรักษาโรคมะเร็งของบำรุงราษฎร์
- การผสมผสานการรักษาหลายวิธีเข้าด้วยกันโดยพิจารณาจากความเหมาะสมของสภาวะโรค เช่น ขนาด ตำแหน่งและระยะของเซลล์มะเร็ง รวมถึงสภาพจิตใจและร่างกายของผู้ป่วยเพื่อให้การรักษาเหมาะสมกับแต่ละบุคคล เช่นการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัด การฉายรังสี การฉายรังสีด้วยเทคนิค VMAT การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดหรือการปลูกถ่ายไขกระดูก (Stem cell) การฝังแร่กัมมันตรังสี (Brachytherapy) การรักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (Targeted Therapy) หรือการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)
- การมี Tumor board หรือการประชุมของทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง เช่น อายุรแพทย์ด้านโรคมะเร็ง ศัลยแพทย์ด้านโรคมะเร็ง พยาธิแพทย์ รังสีแพทย์ผู้ชำนาญด้านโรคมะเร็ง เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการและเภสัชกร เพื่อหาวิธีการรักษาร่วมกัน
- การนำระบบ AI เข้ามาใช้ทั้งในส่วนของการคัดกรอง การวิเคราะห์ และการวินิจฉัย และประมวลผล เพื่อตัดสินใจวางแผนการรักษามะเร็ง รวมถึงมีการทดสอบการตรวจหาการกลายพันธุ์ของเซลล์มะเร็งจากชิ้นเนื้อมะเร็งและจากเลือด ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อการรักษาที่เฉพาะเจาะจงและให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด